พูดถึง “เย็นใจ คาเฟ่” หลายคนจะเห็นภาพถ้วยบิงซูลอยขึ้นมาเลย โดยเฉพาะสาวกทุเรียน ต้องไม่พลาดบิงซูทุเรียนที่ถือเป็นซิกเนเจอร์ของร้านนี้เลย วันนี้เรามาคุยกับ “คุณแบด” เจ้าของและผู้ก่อตั้งร้านนี้ ตลอดระยะเวลาเกือบ 8 ปี ที่ค่อยๆพิถีพิถันพัฒนาทั้งตัวร้านและสูตรขนมแต่ละอย่าง จนปัจจุบันเริ่มมีการขยายสาขาต่อยอดความอร่อยให้เข้าถึงได้ทุกคน ร้านนี้มีที่มายังไง เคล็ดลับของเย็นใจอยู่ตรงไหน หาคำตอบพร้อมกันผ่านบทสัมภาษณ์นี้ได้เลย
แนะนำตัวคุณแบด และร้านเย็นใจ คาเฟ่
สวัสดีครับ ผมแบด-อภิชัย พรวิวัฒน์สุข เป็นเจ้าของร้านเย็นใจ ปีนี้เปิดมาเข้าปีที่ 8 แล้วครับ ที่ร้านจะเน้นบิงซูเป็นหลัก แล้วก็จะมีกาแฟ เครื่องดื่ม ขนมปัง และเมนูอื่น ๆ อีกหลายเมนูเลยครับ มีทั้งหมด 2 สาขา สาขาแรกอยู่ถนนแนบเคหาสน์ ตรงข้ามโรงเรียนดรุณศึกษา เปิดทุกวัน เวลา 11:00 – 21:00 น. รับออเดอร์สุดท้าย 20:30 น. ส่วนสาขาที่ 2 เพิ่งเปิดเมื่อวันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมา อยู่ที่ห้างมาร์เก็ตวิลเลจ ชั้น 2 ครับ เปิดทุกวันเช่นกันครับ สะดวกสาขาไหนก็เรียนเชิญได้เลยนะครับ
จุดเริ่มต้นของการเปิดร้านคาเฟ่บิงซู ขนมหวาน คอนเซ็ปต์ของร้านเย็นใจ
ผมเริ่มต้นมากับแฟน-คุณกิ๊บ แค่ 2 คน เราชอบบิงซูเป็นทุนเดิมอยู่แล้วครับ เวลาไปเที่ยวที่ไหนไม่ว่าจะต่างจังหวัด หรือต่างประเทศก็มักจะแวะหาบิงซูทาน เราคุยกันว่าอยากทำธุรกิจร่วมกันสักอย่างหนึ่ง อาจจะเปิดเป็นร้านคาเฟ่เล็ก ๆ ประกอบกับในหัวหินก็ยังไม่มีคาเฟ่บิงซูในสไตล์ที่เราชอบ แล้วทำเลตรงนี้ก็ดี ผมก็เลยตัดสินใจลาออกจากงานประจำเพื่อมาเปิดร้านของเราเองที่บ้าน จริง ๆ ตอนนั้นผมแทบไม่มีความรู้ด้านการตลาดเลย แต่ก็เริ่มจากการไปกินก่อน แล้วดูว่าแต่ละร้านเป็นยังไง จากนั้นก็ไปเรียน เพื่อให้รู้ว่ากระบวนการทำงานเป็นยังไง ต้องทำแบบไหน แล้วก็ค่อย ๆ เอามาปรับให้เป็นของตัวเองครับ
ชื่อร้านเย็นใจมาจากป๊าของผม เมื่อก่อนป๊าเปิดร้านขายเสื้อผ้า แล้วจะมีป้ายติดว่าร้านใจเย็น ป๊าก็เลยบอกว่าถ้าอย่างนั้นก็ใช้ชื่อเย็นใจสิ ซึ่งเรารู้สึกว่าเป็นชื่อที่เข้าใจง่ายดี อีกทั้งป๊าก็เป็นคนตั้งให้ด้วย จึงเป็นที่มาของชื่อร้าน “เย็นใจ” ครับ เราจะเน้นบิงซูเป็นหลักมาตั้งแต่แรกเลย แล้วก็มีเครื่องดื่มทั่วไป กาแฟ ขนมปัง พอไปทานหลาย ๆ ที่ เราก็จะเห็นว่าแต่ละที่มีการนำผลไม้มาใส่ในบิงซู เราจึงลองเอาบิงซูมาจับคู่กับผลไม้หลาย ๆ ชนิดดูครับ ช่วงแรกจะเป็นบิงซูผลไม้ทั่วไป พอช่วงหลัง ๆ เราไปศึกษาเพิ่มเติมว่ามันมีเครื่องที่ทำเป็นบิงซูสายไหมได้ ผมก็เอามาทำ จนทุกวันนี้เหมือนเป็นซิกเนเจอร์ของร้านเราไปเลยครับ
ผมจะเน้นเรื่องราคาให้ลูกค้าทุกเพศทุกวัยสามารถเข้าถึงได้ และเข้ามาทานได้บ่อย ๆ ไม่ต้องแพงเกินไป บรรยากาศร้านเป็นสไตล์โฮมมี่ ซึ่งตอนแรกชื่อร้านว่า “Yenjai Cafe & Home” ด้วยครับ ส่วนตอนนี้เรารีโนเวทอีกหนึ่งรอบ จนกลายมาเป็นร้านในเวอร์ชั่นปัจจุบัน ให้ดูโตขึ้นและชัดเจนในเรื่องของสไตล์มากขึ้นครับ
ความพิเศษของร้านเย็นใจที่ทำให้ลูกค้าติดใจจนต้องมาซ้ำ
ผมมองว่าเป็นเรื่องของรสชาติที่ดี เข้าถึงง่าย รวมถึงซิกเนเจอร์ต่าง ๆ ของร้านที่เป็นกิมมิกเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น มุมถ่ายรูปน่ารัก ๆ ของเล่น บรรยากาศในร้าน ลูกค้าก็บอกว่ารสชาติอร่อย แต่เราก็มีการปรับพัฒนามาเรื่อย ๆ นะครับ อีกเรื่องคือราคาและความคุ้มค่าที่คนทุกเพศทุกวัยสามารถเข้าถึงได้ง่าย ผมอยากให้ลูกค้ารู้สึกว่าสิ่งที่ได้คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป มีความสุข และมาทานได้บ่อย ๆ ครับ
ถ้าเป็นเมนูขายดีจำพวกผลไม้จะมีเยอะมากครับ เช่น บิงซูเมล่อน แคนตาลูป สตรอว์เบอร์รี แตงโม ถ้าเป็นช่วงวันธรรมดาจะเป็นเมนูที่ฮาล์ฟกัน คือ มะม่วงและสตรอว์เบอร์รี ถ้าเป็นเมนูบิงซูสายไหมก็จะเป็น “สายไหมชาไทย” ที่ขายดีครับ นอกจากนี้ที่ร้านก็ยังมีเมนู seasonal ซึ่งกำลังจะมาในช่วงเมษายนนี้ คือ “บิงซูทุเรียน” ผมรู้สึกว่ามันน่าสนใจเพราะที่หัวหินเองก็มีทุเรียน พอลองเอามาทำดูก็ได้รับกระแสตอบรับจากลูกค้าดีมากเลยครับ จนกลายมาเป็นอีกหนึ่งเมนูแนะนำที่ผมอยากให้มาลองสักครั้ง เป็นซิกเนเจอร์ของร้านเราเลย ทุเรียนหมอนทองคัดเกรดอย่างดี กรอบนอกนุ่มใน เป็นอีกเมนูที่ลูกค้ารอคอยเลยครับ และในอนาคตก็อาจจะมีเมนูผลไม้ตามฤดูกาลอื่น ๆ ตามมาด้วยครับ ร้านของเราก็ยังมีบิงซูอีกประมาณ 20 – 30 เมนู รวมถึงขนมปังหลากหลายหน้า ฮันนี่โทสต์ ครอฟเฟิล เครื่องดื่มอื่น ๆ และกาแฟสดให้เลือกทานในราคาที่ไม่แพงครับ
อะไรทำให้ตัดสินใจขยายสาขา พิจารณาจากอะไรบ้าง
ปีนี้เราเดินทางเข้าสู่ปีที่ 8 แล้วครับ ผมอยากให้เย็นใจคาเฟ่เติบโตขึ้น อยากให้ร้านเป็นที่รู้จักมากขึ้น ผมคิดว่ามันถึงช่วงเวลาที่เหมาะสม และเรามีความพร้อมในระดับหนึ่งที่จะไปต่อแล้วครับ ตอนนี้ร้านเดิมก็คงที่ด้วยตัวของมันเอง การที่ผมตัดสินใจเข้าไปอยู่ในห้าง มันคือการพาตัวเองเข้าไปอยู่ในจุดที่ทำให้ลูกค้าเข้าถึงได้ง่ายขึ้น เพราะผมมองว่าห้างเป็นอีกสถานที่หนึ่งสำหรับคนหัวหิน อีกทั้งยังช่วยแก้ปัญหาของร้านเราได้ด้วย ทำเลสะดวกสบาย มีที่จอดรถ ลูกค้าสะดวกต่อการเข้ามาทาน นอกจากนี้ผมก็มีสิ่งที่อยากทดลองทำในปีนี้คือ ถ้าเราเอาโมเดลของร้านเราเป็นต้นแบบมาทำร้านในห้าง มันจะสามารถไปต่อได้ไหม ซึ่งฟีดแบ็กที่ได้รับจากสาขาใหม่ก็ดีเลยครับ ลูกค้าสะดวกขึ้น และมีกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ เข้ามาเพิ่มขึ้นด้วยครับ
มองภาพเย็นใจในอนาคตไว้ยังไง อยากพัฒนาต่อยอดไปทางไหน
ณ วันนี้ผมอยากโฟกัสที่ทั้ง 2 สาขานี้ก่อนครับ ตั้งใจว่าอยากให้ทั้ง 2 สาขาอยู่คู่กับคนหัวหิน และอยู่ในใจของคนหัวหิน รวมถึงนักท่องเที่ยวไปอีกนาน ๆ อยากให้คนหัวหินรู้สึกว่าถ้าเราจะต้องทานบิงซู ขนมหวาน หรือหาร้านนั่งชิล ๆ สักร้าน อยากให้ร้านเย็นใจเป็นหนึ่งในตัวเลือกของเขาให้ได้ ผมก็เคยมีคิดบ้างว่าบิงซูจะเอาต์ไปหรือยัง แต่อาจเพราะประเทศไทยอากาศร้อน ทำให้มันยังขายได้ด้วยตัวของมันเอง ดังนั้นผมจึงอยากโฟกัสคุณภาพและมาตรฐานให้ดีที่สุดครับ ตอนนี้ก็กำลังคิดค้นเมนูใหม่ ๆ อยู่ อีกไม่นานจะเปิดตัว เราพยายามต่อยอดและพัฒนาไปเรื่อย ๆ ครับ
อะไรคือหลักคิดและแนวทาง ที่เราได้เรียนรู้จากการทำร้านเย็นใจ
ผมคิดว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือเราต้องซื่อสัตย์กับตัวเองและซื่อสัตย์กับลูกค้า นอกเหนือจากเรื่องความอร่อยและมาตรฐานแล้ว สิ่งพวกนี้คือสิ่งที่สำคัญมากครับ เพราะมันจะทำให้เราเข้าไปอยู่ในใจของลูกค้าได้ ซึ่งเราถือคตินี้ตั้งแต่วันแรกเลยว่าอยากทำให้ดีที่สุด จริงใจต่อลูกค้า ไม่เอาเปรียบ และไม่โกงลูกค้า ให้เขารู้สึกว่ามาทานแล้วโอเค สมเหตุสมผล ถ้ามีฟีดแบ็ก ผมก็คอยรับฟัง และพยายามแก้ไขเพื่อให้เขารู้สึกพอใจและแฮปปี้ที่สุดครับ
ฝากข้อแนะนำถึงคนรุ่นใหม่ที่อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง
ผมมองว่าเศรษฐกิจ ณ ปัจจุบันก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้การเริ่มต้นอะไรใหม่ ๆ เป็นไปได้ค่อนข้างยาก และด้วยการแข่งขันที่สูงมาก ๆ ผมก็อยากฝากถึงคนที่อยากเริ่มต้นธุรกิจให้คอยหมั่นหาข้อมูลเยอะ ๆ เพื่อให้มันรองรับกับสิ่งที่เราอยากจะทำให้มากที่สุด แล้วหาตัวตนของเราให้เจอ ว่าเราต้องการอะไร อยากขายอะไร หาจุดเด่น และข้อแตกต่างจากคนอื่นให้ได้ครับ รวมถึงต้องพัฒนาต่อไปเรื่อย ๆ แล้วเราก็จะสามารถทำธุรกิจใหม่ ๆ ได้ดี สำคัญคือความตั้งใจและความแน่วแน่ครับ
สรุปส่งท้าย ฝากร้าน
ลูกค้าใหม่ๆที่ไม่เคยมา / ลูกค้าเก่าที่มาประจำ
สำหรับลูกค้าใหม่ ๆ ผมอยากให้ลองเปิดใจมาทานบิงซูที่ร้านเย็นใจคาเฟ่ดู ร้านของเราจะเน้นบิงซูเป็นหลัก แล้วก็จะมีขนมหวาน เครื่องดื่มต่าง ๆ ครบจบในที่เดียวครับ ผมอยากเชิญชวนให้ลูกค้าใหม่ ๆ ได้ลองเข้ามาทานในสิ่งที่เราตั้งใจทำว่าเป็นยังไง สะดวกหรือใกล้ที่สาขาไหน ไม่ว่าจะสาขาแนบเคหาสน์ หรือสาขาที่ห้างมาร์เก็ตวิลเลจ ชั้น 2 ก็เรียนเชิญเลยครับ ไม่ผิดหวังแน่นอนครับ ขอบคุณมากครับ
สำหรับลูกค้าเก่าที่มาประจำผมอยากจะขอขอบคุณมากกว่าครับ ขอขอบคุณที่คอยซัปพอร์ต คอยสนับสนุน คอยมาทานที่ร้านอยู่เสมอ ทำให้มีเย็นใจในทุกวันนี้ครับ ถ้าไม่ได้ลูกค้าประจำกลุ่มนี้ผมก็ไม่รู้ว่าเย็นใจจะเป็นยังไง ผมก็อยากจะขอบคุณมาก ๆ ที่ยังสนับสนุนกัน ขอบคุณที่ยังแวะมาทานกันเรื่อย ๆ ครับ ยังไงก็เรียนเชิญด้วยนะครับ ขอบคุณมากเช่นกันครับ
ข้อมูลติดต่อ
🍨 Yenjai Cafe
📌 สาขา1 ถ.แนบเคหาสน์ ตรงข้ามโรงเรียนดรุณฯ
⏰ 11:00 – 21:00 น.
📞 089 794 4616
🗺 แผนที่ Google Maps
📌 สาขา2 ห้าง Market Village HuaHin
🗺 แผนที่ Google Maps
