ในวันที่ร่างกายต้องการวิตามิน SEA ทะเลใกล้กรุงเทพฯ ที่ใช้เวลาเดินทางไม่นานมากอย่างหัวหินก็เลยมาเป็นตัวเลือกแรกเลย เราทั้งคู่ตัดสินใจพากันมุ่งหน้ามาที่สถานีรถไฟบางซื่อซื้อตั๋วสองใบปลายทางหัวหินในราคา 44 บาท วันธรรมดาแบบนี้คนไม่เยอะค่ะ มีที่ให้นั่ง ไม่ต้องเบียดเสียดกับใคร แถมช่วงนี้อากาศกำลังดี นั่งเมาท์กันเพลินๆ แป๊บเดียวก็มาถึงหัวหินแล้ว เลทกว่ากำหนดเวลาไปราวๆ สิบยี่สิบนาทีเท่านั้น การได้นั่งรถไฟเที่ยวเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของสายชิลเลยนะคะ ช้าหน่อย แต่วิวสองข้างทางสวยมากๆ
ก๋วยเตี๋ยวต้มยำหน้าวัง หัวหิน 42
พอถึงหัวหินปุ๊บก็มองหาของกินปั๊บ ตามรอยเพจแนะนำข้อมูลท่องเที่ยวอย่าง HuaHin Town เริ่มต้นด้วยเมนูก๋วยเตี๋ยวง่ายๆ แต่อร่อยถูกปาก ชื่อร้านเจ๊น้อยก๋วยเตี๋ยวต้มยำ พิกัดหน้าวัง หัวหิน 42 ขอบอกว่านอกจากก๋วยเตี๋ยวต้มยำที่ขึ้นชื่อแล้ว เกี๊ยวหมูทอดเด็ด! เด็ดมาก! กรอบมากเว่อร์ ทอดใหม่ๆ ร้อนๆเลย ร้านหาง่าย อยู่ติดถนน ฝั่งตรงข้ามกับวังไกลกังวลเลยค่ะ
Tree House Cafe
เรามาต่อกันที่ร้านคาเฟ่สุดชิค Tree House Cafe ซอยหัวหิน 29 ร้านนี้บรรยากาศร่มรื่น ต้นไม้เยอะ ใครอยากได้โอโซน แวะมานั่งร้านนี้ได้เลย มีเครื่องดื่ม ชา กาแฟ คราฟท์เบียร์ ถ้าอาหารมีเป็นสปาเก็ตตี้ และไหนๆ ก็มาแล้ว ถึงจะโซ้ยก๋วยเตี๋ยวมาแล้ว แต่ไม่อยากเสียเที่ยวเลยสั่งสปาเก็ตตี้มาอีกจาน สปาเก็ตตี้ฉู่ฉี่กุ้งน่าตาหน้ากิน รสชาติใช้ได้ เครื่องดื่มอร่อยๆ ยิ่งถ้าใครชอบฟองนมยิ่งห้ามพลาด ร้านนี้ใส่มาแบบจัดเต็มมาก อ้อ…ร้านนี้เป็น Cat’s Lover ด้วยนะคะ มีแมวน่ารักๆ เดินไปมาเต็มไปหมด แมวค่อนข้างเชื่อง จับได้อุ้มได้ แต่ถ้าเราไม่เล่นด้วยก็ไม่มากวนใจอะไร
Veranda Lodge HuaHin
ได้เวลาหอบกระเป๋าเสื้อผ้าเข้าที่พักเสียที คืนนี้เข้าพักที่โรงแรม Veranda Lodge อยู่ในซอยหัวหิน 67 ที่นี่จะเป็นรีสอร์ทสไตล์ธรรมชาติ ปลูกต้นไม้เยอะ ดูร่มรื่นเป็นธรรมชาติ อันนี้ต้องบอกเลยว่าค่อนข้างตรงจริตสายหนีกรุงแบบเรามาก โหยหาธรรมชาติและเสียงคลื่นเหลือเกิน มาพักที่นี่ก็ได้ครบเลย เพราะห้องที่เราพักเป็นบังกะโลติดทะเลชนิดที่เปิดประตูระเบียงออกไปเจอชายหาดเลยจ้า เรียกว่าห้อง on sea ห้องที่เราพัก พนักงานบอกว่า เป็นหนึ่งในห้องที่วิวดีที่สุดเลย ฟินแค่ไหนถามใจเธอดู
บรรยากาศด้านนอกด้วยตอนที่เรามาถึงก็ค่อนข้างมืดแล้ว เมื่อเข้าสู่ห้องพัก ใจที่คิดอยากจะนอน เปลี่ยนไปทันทีจ้า นั่งคุยกัน วางข้าวของ แต่ยังไม่ทันเปิดระเบียงเลย เสียงซู่ซ่าข้างนอกนั้นเรียกร้องเหลือเกินจะแค่เปิดระเบียงแล้วนั่งมอง มันก็ขัดใจนิดหน่อย ตัดสินใจเดินไปเลาะน้ำทะเลกลางคืน กันสักนิดนึงก็ได้ แต่ เฮ้ยยยยยย !! ผิดคาดดดด นอกจากเสียงคลื่นที่ดังมาก และน้ำทะเลที่เย็นเฉียบ แหงนหน้ามองท้องฟ้า แล้วก็พบว่า ดาวสวยมากกกกกก ระยิบระยับเต็มไปหมด บรรยากาศนี่โคตรจะโรแมนติก เสมือนมาเดทกัน 55 นี่เป็นความฝันบนความจริงเลยค่ะ
ในค่ำคืนเดือนมืด ชายหาดที่มีแสงไฟเพียงเล็กน้อย ประกอบกับเสียงคลื่นและกลิ่นไอจากทะเล ยังได้สบตากับดาวบนฟ้าอีกด้วย โอ้โหหห… ลืมทุกอย่างไปก่อนเลยจ้า
ผ่านมาอีกไม่กี่ชั่วโมง หลังจากที่ฟินกับเสียงคลื่นและดาวบนฟ้ามาตลอดทั้งคืน เราสองคน ตั้งใจตื่นมาดูพระอาทิตย์ขึ้นกัน ไม่รู้หรอกค่ะ ว่ากรมอุตุฯ ประกาศว่าพระอาทิตย์จะขึ้นกี่โมง แต่เราตื่นมากันตอนตีห้าค่ะ เช้าเว่อร์ จากนั้นสองคนก็หลับตาพากันเดินออกมาค่ะ เอาเท้าสัมผัสกับน้ำทะเลที่ภายนอกห้องพัก และเฝ้ารอ อย่างใจจดใจจ่อต่อแสงแรกของวัน
ไม่ผิดหวังค่ะ พระอาทิตย์มาแล้ว แสงแรกไม่ได้แสบตามากนัก ละมุน อบอุ่นมากเลย แตะต้องกับน้ำทะเล นี่วิบวับเลยค่ะ สวยจริงจัง ตอนนี้ถ่ายทั้งรูปและวิดีโอไปหลายสิบ ยี่สิบช็อตได้ค่ะ 55 เท่านั้นไม่พอจ้า ตามชายหาดหัวหิน สิ่งเราจะพบในทุก ๆ เช้า คือ พระสงฆ์จะมาบิณฑบาตร เลาะเรียบชายหาดเลย มีนักท่องเที่ยวทั้งไทย เทศ ที่รอใส่บาตรอยู่เหมือนกันค่ะ
หลังจากโฟกัสไปที่สิ่งแวดล้อมทางใจ ทางกายเริ่มส่งสัญญาณค่ะ หิว !! จริงๆคำพูดแรกตอนที่เราตื่นมากัน คำแรกที่พูดก็คือ หิว เหมือนกันค่ะ เดินไปไม่ไกลจากห้องพักเลยค่ะ ก็จะถึงห้องอาหารเช้าของรีสอร์ทอยู่ติดริมทะเลเหมือนกันเลย เมนูหลากหลายแบบฉบับอาหารเช้าและ มี Main course มาให้เลือกอีกด้วยค่ะ แถมด้วยวิวสวยๆเหมาะกับการถ่ายรูปมากค่ะ
เริ่มตาลายหยิบกันอย่างไม่คิดเลยค่ะ 55 พนักงานก็บริการดีนะคะ กลัวผู้หญิงบอบบางสองคนจะไม่อิ่ม เอาเมนูหลักมาให้เลือกเพิ่มอีกจ้า แต่ก็กินกันไม่ยั้งเช่นกันค่ะ หุหุ ตั้งแต่ชา กาแฟ นม น้ำร้อน น้ำเย็น ขนมปัง ไส้กรอก ไข่ดาว คอนเฟล็ก เมนูหลัก และ ผลไม้ค่ะ ส่วนเรื่องรสชาติ ใช้ได้เลยค่ะ และรอเวลาไม่นานด้วยสำหรับเมนูหลักที่เราสั่งเพิ่มไป
เสร็จจากมื้อเช้า เราเดินถ่ายรูปเล่นกันอีกเยอะเลยค่ะ ด้านบนของห้องอาหารเป็นดาดฟ้าติดกับสระว่ายน้ำ และมีที่สำหรับให้นอนอาบแดดและมองวิวทะเลจากตรงนี้ได้เลย ที่ชอบอีกอย่าง คือ บรรยากาศของโรงแรม ร่มรื่นมาก แม้พื้นที่ไม่ได้กว้างขวางมากนัก แต่ก็มีต้นไม้ใหญ่น้อยเกาะกุมเต็มพื้นที่เหมือนกันค่ะ อากาศดีกันไปเลยทีเดียวเชียว
ที่นี่มีห้องพักหลายแบบเลยค่ะทั้งแบบห้องเดี่ยว ห้องครอบครัว แบบ connected room หรือ แบบบังกะโลก็มีทั้งหมดเลยค่ะ ลูกค้าที่เข้าพักส่วนใหญ่ เป็นชาวต่างชาติค่ะ วันที่เราไปไม่เจอคนไทยเลยค่ะ และจากที่สอบถามจากพี่พนักงาน ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็น returned guess ด้วยนะคะ แสดงว่า หลายคนประทับใจ และเลือกกลับมาพักที่เดิมค่ะ
สรุป โรงแรมนี้ไม่ใช่โรงแรมใหม่นะคะ แต่ก็ไม่ได้เก่า ไม่ได้ให้บรรยากาศแบบโรงแรมไปซะทีเดียว ให้บรรยากาศแบบบ้านด้วยค่ะ ห้องพักสะอาดดีมาก มีปลั๊กไฟเยอะมาก (อันนี้ถูกใจสุด) มีเข้าไปยันในห้องน้ำ อุปกรณ์ครบครัน เตียงอุ่นๆ โซฟาเบดที่เหมาะกับการนอนกลิ้งอ่านหนังสือ แอร์เย็นแต่ผ้าห่มเอาอยู่ มีเครื่องทำน้ำอุ่น แชมพู สบู่ โลชั่น ดรายร์เป่าผม ตู้เย็น ตู้เซฟ รองเท้าเดินหาด รองเท้าเดินในห้อง ร่ม กระเป๋า ฯลฯ ยังจะเอาอะไรอี๊ก คุณพระ! ที่นี่เหมาะมากๆ กับการนอนเฉย ๆ 55 หรือเปลี่ยนสถานที่ทำงาน บรรยากาศดีค่ะ เปิดระเบียงก็ได้ยินเสียงคลื่นแล้วคุณขา อารมณ์สุนทรีไม่บังเกิดก็ไม่รู้จะว่าไงแล้ว
ส่วนมุมให้ถ่ายรูป แนะนำตอนเช้าที่ชายหาดค่ะ เป็นช่วงที่เวิ้งของหาดค่อนข้างสวยเลยค่ะ สะอาดด้วย และมุม ที่ห้องอาหารทั้งด้านบน ด้านล่าง ด้านนอก มีมุมด้านในของโรงแรม ก็ร่มรื่นดีเลยค่ะนอกจากนี้ ตัวโรงแรมอยู่ใกล้กับ Community mall และร้านสะดวกซื้อต่างๆ อีกด้วยค่ะ ถ้าสมมติว่าอยากจะได้อะไรเพิ่มเติม เดินออกมาไม่ไกลมากค่ะ
บรรยากาศ
Veranda Lodge HuaHin
สถานที่ตั้ง : เข้าซอยหัวหินซอย 67 รีสอร์ทอยู่ท้ายซอยติดทะเล มีที่จอดรถสะดวกสบาย Google Maps
ติดต่อ : 032 533 678, Facebook , Website
ขอขอบคุณ Veranda Lodge HuaHin สำหรับการสนับสนุนการเดินทางในทริปนี้ และสำหรับใครที่มองหาที่พักติดทะเลหัวหินในบรรยากาศอบอุ่นเหมือนอยู่บ้าน เราแนะนำที่นี่เลยค่ะ 🙂 แล้วพบกันนะคะ
เรื่อง / ภาพ : Nannie R. Narapond , Bualookkaew Sakchatchawan