People ใจจริงจัง

สัมภาษณ์เจมส์ แอน ร้าน “Chiffon.Café” บาริสต้ามาดเซอ ผู้ใช้ชีวิตจนเจอสูตรผสมที่ลงตัว

วันนี้เราบุกมาที่ร้าน Chiffon.Café หนึ่งในร้านกาแฟที่ชวนให้คนออกเดินทาง คุยกับเจมส์ แอน บาริสต้าหนุ่มสาวมาดเซอ ที่ใช้ชีวิตจนเจอสูตรผสมที่ลงตัว 🖤☕️ เรื่องราวของทั้งคู่จะเป็นยังไง สเน่ห์ของร้านชิฟฟ่อนอยู่ตรงไหน หาคำตอบพร้อมกันผ่านบทความนี้ได้เลย


เลือกดูจากหัวข้อ ปิดสารบัญ

แนะนำตัว บทบาทและหน้าที่ภายในร้าน ของเจมส์ และแอน

เจมส์ : เจมส์เป็นบาริสต้าประจำร้าน Chiffon.Café จะดูส่วนหน้าบ้านเป็นหลัก คอยชงเครื่องดื่ม และดูแลบริการลูกค้า

แอน : แอนจะคอยดูแลบริหารจัดการร้าน คอยดูแลระบบหลังบ้าน เป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังและผู้ช่วยคอยสนับสนุนงานหน้าบ้าน รวมถึงอบขนมและคิดค้นเมนูใหม่ ๆ


จุดเริ่มต้นและแรงบันดาลใจในการเปิดร้านขนม “Chiffon Cake”

เจมส์ : เจมส์กับแอนเจอกันที่ออสเตรเลีย ช่วงนั้นเป็นช่วงที่เจมส์ไปเรียนต่อ เพื่อค้นหาตัวเองและอยากได้ประสบการณ์ใหม่ ๆ ส่วนแอนก็กำลังเรียนทำขนมอยู่เหมือนกัน พอกลับมาที่ประเทศไทยด้วยความที่เจมส์อยากใช้เวลาอยู่กับแอน อยากทำธุรกิจร่วมกัน เราก็เลยตัดสินใจว่าจะเปิดร้านขนมด้วยกัน

แอน : หลังกลับจากออสเตรเลียเราก็ลองแยกย้ายกันไปทำในสิ่งที่ตัวเองเป็นก่อน แอนก็ขายขนมอยู่บ้านที่แปดริ้ว แต่ตัวเรามีแพชชั่นที่อยากทำขนมอยู่แล้ว ช่วงที่ไปเรียนภาษาก็มีโอกาสได้ลองทำงานที่คาเฟ่แล้วเรามีความสุข จึงตัดสินใจเรียนทำขนม ตอนเปิดร้านครั้งแรกเราก็ตั้งใจว่าจะขายขนม ขายชิฟฟอนแค่อย่างเดียว ยังไม่มีกาแฟ ไม่ได้แพลนไว้ว่าจะเปิดเป็นคาเฟ่ค่ะ


ทำไมถึงเลือกมาเปิดร้านที่หัวหิน คอนเซ็ปต์ของร้านที่วางเอาไว้

เจมส์ : ที่เลือกมาเปิดที่หัวหินเพราะว่าคุณพ่อของเจมส์มีเพื่อนที่มีพื้นที่ตรงนี้ว่างอยู่พอดี ประกอบกับมีช่วงที่เราไปเที่ยวญี่ปุ่นด้วยกันแล้วบังเอิญไปเจอร้านขายขนมเล็ก ๆ ที่ขายดีมากก็เลยเป็นแรงบันดาลใจทำให้เราอยากลองเปิดร้านแบบนี้ที่ไทยบ้าง ช่วงเปิดแรก ๆ เราขายขนมกันอย่างเดียว นอกจากชิฟฟอนเค้กที่แอนถนัด ก็มีชูครีม และท็อฟฟี่เค้กที่ขายดีมาก เราเปิดร้านแบบไม่มีกาแฟมาได้ประมาณ 1 ปี มันก็มีทั้งช่วงที่ขายได้และช่วงที่ลำบากมาก ๆ แต่โชคดีที่เราก็มีคนคอยช่วยเหลือและให้คำปรึกษา


ในฐานะที่เป็นคนรุ่นใหม่ การตัดสินใจเริ่มต้นธุรกิจของตัวเองมีความท้าทายยังไงบ้าง

แอน : แอนกลับมาก็มีความตั้งใจอยากเปิดร้านขนมอยู่แล้ว เงินเก็บที่มีเราก็เอาไปทุ่มกับอุปกรณ์หมด เดิมทีเราแค่อยากไปเรียนภาษา แต่พอมีโอกาสได้ลองทำงานในครัวแล้วเราชอบก็เลยตัดสินใจเลือกทางนี้ เลือกสิ่งที่เป็นความสุขของเรา ณ ตอนนั้น

เจมส์ : ไม่มีประสบการณ์ด้านนี้เลยครับ เราเปิดร้านครั้งแรกปี 2019 เป็นช่วงที่ลำบากมาก รายได้ที่เข้ามามันก็แค่พอช่วยให้อยู่ได้ กว่าจะมีลูกค้าประจำก็อีก 6 เดือนให้หลัง แต่เราก็ยังมีความหวัง ยังอยากที่จะไปต่อ เพราะเราคิดว่าถ้าแพ้เราไม่มีเงินไปเริ่มใหม่แล้ว หลังจากลองผิดลองถูกอยู่ได้ประมาณ 1 ปีกว่า ๆ มันก็เริ่มเข้าที่เข้าทาง ช่วงหลัง ๆ สักประมาณเดือนธันวาคม ปี 2020 เจมส์ก็เริ่มอัพเกรดตัวเอง เริ่มทำกาแฟ เพื่อนที่เจมส์รู้จักตอนที่อยู่ออสเตรเลียเขาก็ให้ยืมเครื่องทำกาแฟมา เราก็พยายามปรับในสิ่งที่ร้านขาด เริ่มออกเรียน หาอาจารย์ มีที่ปรึกษาของเราเอง หลังจากนั้นสักปีกว่า ๆ ร้านก็เริ่มเป็นที่รู้จัก


สเน่ห์ของร้าน Chiffon.Café ที่ทำให้เราแตกต่างจากร้านกาแฟอื่น ๆ ในหัวหิน

แอน : แอนคิดว่ามันคือความเป็นตัวเองของเราสองคน การบริการที่ใส่ใจลูกค้าของเรา เราจำลูกค้าได้ก็จะทักทายเขาเหมือนพี่เหมือนน้อง ช่วงวันธรรมดาเราก็จะมีลูกค้าประจำเป็นคนพื้นที่อยู่แล้ว ส่วนช่วงวันหยุดก็มักมีนักท่องเที่ยวที่เขาแวะเวียนกลับมา รวมถึงเราก็เริ่มมีลูกค้าชาวต่างชาติเยอะขึ้น ก็มีหลากหลายกลุ่มที่แวะเวียนกลับมาค่ะ

เจมส์ : ข้อดีของเจมส์คือจำชื่อลูกค้าได้ จำได้ว่าลูกค้าชอบทานอะไร ชอบทานแบบไหน เวลาเจอลูกค้าเราก็จะทักทายเขาอย่างเป็นธรรมชาติ


ร้าน Chiffon.Café ตอนนี้มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมบ้าง ภาพฝันที่วาดไว้เป็นยังไง

เจมส์ : ตอนนี้เราก็เพิ่งรีโนเวทร้านใหม่ ทาสีใหม่เป็นสีดำ อัพเกรดอุปกรณ์ เจมส์ก็มีเครื่องทำกาแฟของตัวเองแล้ว มีพร็อพเพิ่มมากขึ้น เพราะเราตั้งใจไว้ว่าอยากให้คนเข้าร้านมาแล้วสนุก อยากให้เขาเข้ามาเจอเราแล้วตื่นออกไปเลยครับ เพลงที่เปิดในร้านช่วงนี้จะเป็น Hip hop เราอยากให้ลูกค้าซื้อกาแฟเสร็จแล้วยิ้มได้ หัวเราะได้ มี energy พร้อมออกไปต่อสู้กับภาระหน้าที่ การปรับเปลี่ยนครั้งนี้ก็มาจากความชอบส่วนตัว อยากปรับเปลี่ยนให้มีความเป็นตัวเรามากขึ้น

แอน : นอกจากนี้เราก็มีการเพิ่มเมนูขนมอื่น ๆ เข้ามา เช่น Banoffee pie, Lemon pie, Scones และ Panini sandwiches ก็เป็นเมนูที่แอนทำสมัยตอนอยู่ออสเตรเลีย ซึ่งมันก็มาจากความชอบส่วนตัวของเราด้วย เค้กวันเกิดในอนาคตก็กำลังจะกลับมาทำค่ะ


เมนูที่อยากแนะนำให้ลองทาน

เจมส์ : ถ้าเป็นขนมนอกจากชิฟฟอนแล้วก็อยากให้ลองทานช็อตเค้ก ช่วงนี้เจมส์ก็กำลังทุ่มเทกับการเรียนทำลาเต้อาร์ตเลยอยากแนะนำให้ลองทานเป็นพวกกาแฟนมร้อน ลาเต้ร้อนครับ ส่วนถ้าเป็นเครื่องดื่มที่ไม่ใช่กาแฟอยากให้ลองทานชาไทยของร้านเรากันดูครับ เป็นอีกเมนูที่เจมส์ตั้งใจมากๆเช่นกัน


สิ่งที่เราอยากทำเพื่อพัฒนาให้ร้าน Chiffon.Café ยังคงเป็นร้านกาแฟในดวงใจของลูกค้าได้อย่างยาวนาน

แอน : ตอนนี้เราก็กำลังสร้างทีม กำลังพัฒนาทีมงานกันอยู่ค่ะ เราก็ยังคงรักษามาตรฐานดั้งเดิมของเราไว้ เพียงแต่ว่าอยากพัฒนาให้มันดีขึ้น ลื่นไหลมากขึ้น รวดเร็วมากขึ้น เพื่อให้ลูกค้าได้รับการบริการที่รวดเร็วขึ้น เพราะเราเข้าใจดีว่าลูกค้าที่มาช่วงเช้า ๆ ก็อาจจะเร่งรีบไปทำงาน เราเองก็อยากเป็นส่วนหนึ่งที่มอบ energy ให้เขายิ้มได้ อยากพัฒนาอะไรใหม่ ๆ รวมถึงพัฒนาเมนูต่าง ๆ ให้ดีขึ้นโดยที่ยังคงมาตรฐานเดิมของเราไว้ค่ะ


สรุปส่งท้าย ฝากร้าน Chiffon.Café

เจมส์ : ถ้าคิดถึงกันก็แวะเวียนมาได้นะครับ หากอยากได้บรรยากาศของกาแฟในรูปแบบของเรา มาลองสัมผัสความมันส์และความเฟี้ยวของบาริสต้าก็เชิญชวนให้มาที่ Chiffon.Café ครับ

แอน : หากคิดถึงหัวหิน อยากให้ Chiffon.Café เป็นส่วนหนึ่งของความคิดถึงของทุกคนค่ะ


ข้อมูลติดต่อ

🍰 Chiffon.café
🚗 ร้านอยู่กลางซอยหัวหิน 51
⏰ 08:00 – 17:00น. (หยุดทุกวันอังคาร)
📞 097 096 9470
🌏 แผนที่ Google Maps

Avatar photo
พวกเราหัวหินทาวน์ จะมาบอกเล่าเรื่องราวดีดีๆเกี่ยวกับหัวหินให้เพื่อนๆได้ชมกันนะคะ คิดถึงหัวหิน คิดถึงพวกเรา หัวหินทาวน์