“ส้มตำเจ้ไหม” เรายกร้านนี้ให้เป็นของดีเมืองหัวหิน ทั้งรสชาติ ปริมาณ ราคา และโดยเฉพาะเอเนอร์จี้ของแม่ค้า “เจ้ไหม” ที่หลายๆคนน่าจะคุ้นเคยกันดี กับลีลาการโขลกครก จกยำ ตำไม่หยุดตั้งแต่ร้านเปิดจนหมดวัน ความอร่อยที่ดึงดูดลูกค้าให้แวะเวียนมาตลอดไม่ขาดสาย วันนี้เราจะพาคุณไปเจาะลึกถึงเรื่องราวเบื้องหลังความแซ่บของเจ้ไหม ร้านนี้น่าสนใจยังไง หาคำตอบพร้อมกันผ่านบทสัมภาษณ์นี้ได้เลย
แนะนำตัวเจ๊ไหม และร้านส้มตำ ปัจจุบันขายอะไรบ้าง เปิด-ปิดกี่โมง
ป้าไหมเปิดร้านตั้งแต่ 10:00 – 16:00 น. หยุดทุกวันอังคาร สามารถโทรมาสั่งหรือจองโต๊ะได้ที่เบอร์ 086-795-7301 เลยลูก ป้าไหมไม่มีแกร็บหรือไลน์แมน มาเจอกันหน้าร้านดีกว่าจะได้เห็นหน้ากันด้วย
จุดเริ่มต้นของร้านส้มตำเจ๊ไหม เริ่มขายที่ไหน เปิดมากี่ปีแล้ว
เมื่อก่อนป้าไหมขายอยู่แถวร้านตะโก้เบญจพงศ์ ประมาณ 7 ปี แล้วก็ย้ายมาตรงนี้ได้ประมาณ 22-23 ปี เปิดขายมาประมาณ 30 ปี อยู่จนกลายเป็นคนหัวหินแล้ว ป้าไหมเคยเป็นกุ๊กอยู่ที่กรุงเทพฯ มาก่อน แล้วก็ย้ายมาเป็นกุ๊กที่หัวหิน ประจวบกับช่วงฟองสบู่แตกพอดี ก็เลยตัดสินใจออกมาขายของเองดีกว่า ขายใหม่ ๆ ไม่มีคนซื้อเลย พอต้องย้ายออกจากที่เดิมก็มาขายอยู่ตรงนี้แทน
ทำไมถึงเลือกขายตรงนี้ ลูกค้าส่วนมากคือใคร
ตรงนี้เขาจะเรียกกันว่าสี่แยกประมง ซอย 55 เมื่อก่อนก็มีร้านมาตั้งขายแบบนี้แหละ แต่ร้านที่อยู่มานานก็จะมีร้านป้าไหม ร้านข้าวตามสั่งลุงเบิร์ด ร้านผัดไทย แล้วก็ร้านไก่ทอด ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นคนพื้นที่ แต่เราก็เอาลูกค้าทุกคนนั่นแหละลูก ใครมาเราก็ขายหมด ราคาเดียวกัน ป้าไหมพยายามทำให้ดีที่สุดเพื่อให้เขากลับมาทานร้านเราอีก
หลายสิบปีที่เปิดมา ร้านส้มตำเจ๊ไหมมีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมบ้าง
เปลี่ยนแปลงเยอะเลย เมื่อก่อนป้าไหมขายแค่ไก่ย่าง ไก่ทอด ส้มตำ แล้วก็น้ำตก แต่ตอนนี้ขายทุกอย่างเลย เมนูก็เพิ่มไปเรื่อย ๆ เพราะป้าเองอายุมากแล้ว ตอนนี้อายุ 60 แล้วลูก ทำมานานแล้ว ร่างกายมันก็แย่เหมือนกันแหละ แต่ก็ยังสู้นะ
มันจะออกเท่า ๆ กันทุกเมนูเลย มีปลาดุกฟูเป็นนางเอก ส่วนใหญ่ลูกค้ามาแล้วจะทานทุกคน เพราะจานใหญ่ แล้วป้าไหมขายแค่ 120 บาทเอง แล้วแต่คนชอบลูก แต่ช่วงนี้เป็นหน้ากระท้อน ซึ่งมันไม่เหมือนผลไม้ชนิดอื่นที่จะมีตลอดทั้งปี กระท้อนจะมีแค่ปีละครั้ง ครั้งละ 2 เดือน คือเดือนนี้กับเดือนหน้า เอาไปทำเป็นพวกตำกระท้อนไทย ตำกระท้อนปู ตำกระท้อนปูปลาร้า แล้วก็กระท้อนทรงเครื่องได้
เมนูอื่น ๆ ก็จะมีเป็นยำหกไข่ คือใส่ไข่ปลาริวกิว ไข่ปูม้า ไข่ปลาหมึก ไข่กุ้ง ไข่แมงดา ราคาอยู่ที่จานละ 300 บาทเองลูก แล้วก็จะมีพวกยำทะเล 120 บาท มีกุ้ง หมึก แมงกะพรุน หอยแมลงภู่ นอกจากนี้ก็มีหมูย่างที่จะสั่งทุกโต๊ะ ไส้ย่าง ยำไข่แมงดา หลายรายการลูก
เคล็ดลับอะไรที่ทำให้ลูกค้าติดใจจนแวะเวียนกลับมาเรื่อย ๆ
ป้าไหมให้เยอะ ราคาไม่แพง ชอบทานรสอะไรก็บอกกันได้ เผ็ดมาก เผ็ดน้อย แจ้งได้เลย หัวใจของแม่ค้าคือคุณก็ต้องพยายามที่จะได้กำไรน้อยหน่อย ไม่ใช่ว่าจะไปเอาเปรียบลูกค้า คุณก็จะขายได้แค่แป๊บเดียว แล้วเขาก็จะไม่มาอีก ป้าไหมยอมได้กำไรนิดหน่อย ใช้ของดี แต่ลูกค้ากลับมากินตลอดนะ ป้าไหมก็เลยจะขายได้ทุกวันตลอดทั้งปี
ในมุมมองของเจ๊ไหม หัวหินเปลี่ยนไปมากน้อยแค่ไหนในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา
เปลี่ยนไปเยอะนะ เมื่อก่อนนักท่องเที่ยวจะเยอะกว่านี้ ช่วงเทศกาลจะพลุกพล่านเลย แต่ตอนนี้มีแม่ค้าเยอะ มีร้านอาหารเพิ่มขึ้นเยอะมาก มีธุรกิจหลายอย่าง พอแหล่งท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น นักท่องเที่ยวก็จะกระจาย ๆ กันออกไป ไม่ได้มากระจุกกันอยู่แค่ที่เดียว ทีนี้ก็จะขึ้นอยู่ที่ว่าใครสามารถรักษาคุณภาพไว้ได้ดีกว่ากัน ป้าไหมขายแบบคำนึงถึงลูกค้าให้มากที่สุด ได้กำไรน้อยหน่อยก็ไม่เป็นไร หัวหินมีเสน่ห์ตรงที่ว่าใครมาแล้วก็ต้องกลับมาอีก เป็นเมืองเงียบ ๆ ของก็ไม่แพงเหมือนแต่ก่อนแล้วด้วย
สิ่งที่อยากทำและเป้าหมายในอนาคตของร้านส้มตำเจ๊ไหม
ป้าไหมไม่ย้ายไปไหนแล้ว ขายอยู่ที่นี่แหละ ร้านแค่นี้พอแล้ว ลูกค้ามาเจอกันได้ที่นี่ตลอด รับประกันเลย เพราะป้าไหมรักอาชีพนี้ ทำอย่างอื่นไม่ได้แล้ว
สรุปส่งท้าย ฝากร้าน
ฝากข้อความถึงลูกค้าที่ยังไม่เคยมา และลูกค้าเก่าที่มาประจำ
เชิญชวนมากินเจ๊ไหม ซอย 55 นะคะ ถ้าถูกใจก็มากันได้บ่อย ๆ ป้าไหมรับประกันว่าไม่เสียชื่อคนหัวหินค่ะ
แล้วก็ต้องขอขอบคุณลูกค้าทุกคนที่อุดหนุนกันมาตลอด ช่วงที่ขายมา 20-30 ปี คนหัวหินไม่เคยทิ้งป้าไหมเลยนะ ถึงแม้จะเป็นช่วงหน้าฝน หรือช่วงโควิด ป้าไหมก็ขายได้ตลอด ไม่เคยปิดร้านเลย ลูกค้าคนกรุงเทพฯ ก็มี บางคนก็ตามหาว่าย้ายร้านไปไหน ซึ่งป้าไหมก็จะขายอยู่ที่นี่ ไม่ย้ายไปไหนแล้ว ลูกค้ามาเจอป้าไหมที่นี่ได้เลย
ข้อมูลติดต่อ
🌶 ส้มตำเจ้ไหม
📌 ซอยหัวหิน 55 เข้าซอยมา 50 เมตร ร้านขวามือ
⏰ 10:00 – 16:00 น. หยุดทุกวันอังคาร
📞 086-795-7301
🗺 แผนที่ Google Maps