บทสนทนากับ “พี่หนู” ผู้ดูแล “รถเขียวหัวหิน” สองแถวที่เชื่อมต่อเส้นทางชีวิตของเมือง

ในวันที่เมืองเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา ยังคงมี “รถเขียว” 🚐 สองแถวสีเขียวที่วิ่งให้บริการผู้คนทุกวันอย่างไม่เคยเปลี่ยนไป เบื้องหลังของระบบขนส่งเล็ก ๆ นี้ มีชายคนหนึ่งที่ยืนหยัดดูแลมาตั้งแต่เริ่มต้น “พี่หนู” ผู้ควบคุมคิวรถเขียวหัวหิน 🧑‍🔧 ผู้รู้ลึกทุกเส้นทาง จังหวะ และเรื่องราวบนสองแถวที่เชื่อมต่อชีวิตของคนในเมืองไว้ด้วยกัน 🛣️ เรื่องราวของรถเขียวและพี่หนูจะเป็นยังไง วันนี้หัวหินทาวน์จะมาเล่าให้ฟัง

แนะนำตัวพี่หนู และ “รถเมล์เขียวหัวหิน” คืออะไร ให้บริการมาแล้วกี่ปี?

ผมวันชัย ดวงแข ชื่อเล่นหนูครับ เป็นคนหัวหินโดยกำเนิด ดูแลรถเขียวมาตั้งแต่เริ่มต้นเลย ซึ่งรถเขียวให้บริการมาแล้วกว่า 36 ปี ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2532 ครับ ช่วงเช้าของทุกวันผมจะวิ่งรถเที่ยวพิเศษ ตั้งแต่ตีสี่ครึ่งสำหรับพระไปบิณฑบาตที่หัวหิน แกจะลงมาจากเขาตะเกียบแล้วจะมาคอยที่นี่ แล้วก็จะมีผู้โดยสารประจำอีก 2-3 คน ที่จะขึ้นไปรอบนี้ด้วย แต่ถ้ารอบรถในเวลาปกติจะเริ่มตั้งแต่ 06:00 – 21:00 น. แล้วก็จะออกทุก ๆ 10 นาทีครับ

ระบบรถเขียวในหัวหินเกิดขึ้นได้ยังไง ใครเป็นคนริเริ่ม มีเป้าหมายอะไรในการให้บริการบ้าง?

เมื่อก่อนจะมีรถเมล์แดง หัวหิน-ปราณบุรีที่วิ่งให้บริการอยู่ แต่เดิมทีเส้นเขาตะเกียบยังไม่มีสัมปทานของใคร กรมการขนส่งก็เลยเสนอให้บริษัทวลัย ซึ่งเป็นผู้ประกอบการที่มีเส้นทางที่ป่าละอูอยู่ตอนนั้น เปิดเส้นทางใหม่ในเขาตะเกียบ ซึ่งยังไม่มีบริการเดินรถ กลายเป็นจุดเริ่มต้นของรถเขียวที่รู้จักกันในวันนี้ ผมก็เข้ามาดูแลตั้งแต่แรก พร้อม ๆ กับที่รถเขียวเกิดเลย ช่วงแรกก็เป็นรถวิ่งปกติ ต่อมาปีพ.ศ. 2533 เขาก็บังคับให้ทำรถสีเขียว ซึ่งก็ยังสังกัดอยู่ในบริษัทวลัยเหมือนเดิม เราก็จะเรียกง่าย ๆ กันอย่างคุ้นเคยว่า รถเมล์เขียว หรือรถตะเกียบนั่นเอง

ในช่วงเริ่มต้นมีรถประมาณ 28 คันเท่านั้น ถนนก็ยังแคบ ๆ รอบ ๆ เต็มไปด้วยป่า เริ่มมีคอนโด โรงแรม ส่วนวัดแถวนี้มีมานานแล้วครับ ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคนท้องถิ่น และนักท่องเที่ยวบางส่วน คิวตอนแรกของเราจะสุดที่ตลาดฉัตรไชย หากผู้โดยสารต้องการไปสนามบินก็จะต้องเปลี่ยนคันใหม่ ทีนี้ทางเจ้าของบริษัทวลัยเห็นว่าถ้าต้องต่อรถจะไม่สะดวกกับลูกค้า จึงเสนอให้รถวิ่งยาวไปจนถึงสนามบินเลยโดยไม่ต้องเปลี่ยนคัน รวมถึงขยายเส้นทางต่อเข้าไปยังโรงพยาบาลหัวหินด้วย เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้สูงอายุและคนไข้ ค่าโดยสารในสมัยนั้นคนละไม่กี่บาทเอง เด็กนักเรียน 75 สตางค์ ผู้ใหญ่ 6 สลึง ต่อมาขยับเป็น 1.50 บาท แล้วก็เพิ่มเป็น 2 บาท เมื่อก่อนพวกผมอดทนกันมาสุด ๆ เลย วันหนึ่งได้ประมาณ 30-40 บาทเองครับ

ปัจจุบัน รถเขียวมีวิ่งกี่สาย วันหนึ่งมีกี่เที่ยว ผ่านบริเวณไหนบ้าง ค่าบริการเท่าไหร่?

ปัจจุบันมีรถวิ่ง 45 คัน ออกทุก 10 นาที เริ่มตั้งแต่หกโมงเช้า ออกจากเขาตะเกียบไปทางเทศบาล แต่ไม่ได้ไปสถานีรถไฟ รถจะเลี้ยวขวาเข้าตลาดโต้รุ่ง ถ้าลูกค้าอยู่ตรงหอนาฬิกา หรือสถานีตำรวจ สามารถเดินออกมารอรถแถวเทศบาล หรือธนาคารออมสินได้ จากนั้นรถก็จะออกมาทางมูลนิธิ ถึงสี่แยกไฟแดงแล้วเลี้ยวซ้ายไปสนามบิน เข้าไปรับคนที่โรงพยาบาล พอถึงสนามบินก็ยูเทิร์นกลับมาที่ตลาด ก่อนจะกลับมาพักที่เขาตะเกียบตามเดิม ซึ่งขาไปผู้โดยสารไม่ต้องเปลี่ยนรถ แต่ถ้าฝั่งขากลับจากสนามบิน ต้องมาเปลี่ยนรถในตลาดหัวหินก่อน

ค่ารถเขาตะเกียบ-ตลาดฉัตรไชย 15 บาท หัวหิน-สนามบิน 15 บาท ถ้าขึ้นระหว่างทางก็ 15 บาท แต่ถ้านั่งจากเขาตะเกียบยาวสุดสายไปสนามบินจะ 30 บาท ส่วนเด็กนักเรียน 10 บาท แต่ถ้าต้องไปเปลี่ยนรถที่ตลาดก็จะต้องเสียค่ารถ 2 รอบครับ

กลุ่มลูกค้าที่มาใช้บริการส่วนใหญ่เป็นใครบ้าง มีการเปลี่ยนแปลงตามช่วงเวลาไหม?

ส่วนใหญ่เป็นชาวบ้านในพื้นที่ พ่อค้า แม่ค้า นักท่องเที่ยวต่างชาติก็มีเยอะครับ เมื่อก่อนขนส่งเขาจะจัดอบรมปีละครั้ง เพื่อให้เราสื่อสารภาษาอังกฤษได้ อย่างผมพอมีพื้นฐานอยู่บ้าง แล้วก็ศึกษาเพิ่มเติมมาเรื่อย ๆ ผมจำได้หมดว่านี่คนพื้นที่ นักเรียนพื้นที่ หรือนักท่องเที่ยวก็จะรู้เลยครับ ช่วงนี้จะเป็นคนพื้นที่ประมาณ 50-60% นักท่องเที่ยวจะน้อยกว่าประมาณ 35-40% แต่ถ้าช่วงไฮซีซั่น บางครั้งมีแต่นักท่องเที่ยวต่างชาติล้วน ๆ เต็มคันรถเลย ขึ้นไปไม่มีคนไทยหรือคนพื้นที่เลยก็มีครับ

เคยเจอความท้าทายหรืออุปสรรคอะไรบ้างตลอดหลายปีที่ผ่านมา?

ช่วงโควิดอาการหนักเหมือนกันครับ ผมจะวิ่งวันละรอบสองรอบ คือวิ่งไปเนี่ยไม่ได้อะไร มีแต่ควักกระเป๋าเติมน้ำมันอย่างเดียว เพราะว่าคนป่วยเยอะ แต่ก็ต้องปรับตัวกันให้ได้ บางคนที่เช่าก็ต้องขับให้ได้ พอช่วงฟื้นตัวก็ต้องเร่งสปีด เพราะช่วงไฮซีซั่นระยะมันสั้น ผมก็บอกพวกรถว่าช่วงไหนได้ก็ต้องน้ำขึ้นให้รีบตัก ขยันวิ่งหน่อย ออกเช้ากลับมืดเราก็ต้องอดทน ใครขยันก็ได้ มันก็ค่อย ๆ ฟื้นกลับมาเรื่อย ๆ เพิ่งจะมาช่วงนี้แหละที่โลว์เยอะนิดหนึ่ง เพราะคนไทยที่หายไปก็ด้วยเรื่องเงิน เศรษฐกิจ เป็นช่วงเปิดเทอม แต่ปกติช่วงนี้ก็จะค่อนข้างเงียบอยู่แล้ว แต่โควิดเป็นวิกฤติที่หนักสุด เพราะมันลากยาวมาเลย ส่วนช่วงหน้าไฮ ก็จะมีลูกค้าที่ประทับใจในบริการ ค่าโดยสาร 15 บาท เขาก็ให้ 20 บาท บางคนให้ 50 บาท แล้วก็ชมว่าเราบริการดี

จากวันแรกที่เริ่มให้บริการจนถึงวันนี้ พี่หนูรู้สึกว่ารถเขียวมีการเปลี่ยนแปลงหรือพัฒนาอะไรบ้าง

ถ้าปัจจุบันคนพื้นที่ก็ยังใช้บริการเรื่อย ๆ แต่ว่าพ่อค้า แม่ค้าตอนนี้เริ่มลดน้อยลง เพราะความสะดวกมันเพิ่มขึ้น มีเซเว่น ห้าง ร้านสะดวกซื้อเยอะ บางคนก็โทรให้ร้านค้าไปส่งของให้ที่บ้านแทน แล้วคนก็มีรถส่วนตัวกันเยอะขึ้นด้วย ช่วงนี้โลว์ซีซั่นก็จะต่างชาติน้อยหน่อย คนที่ใช้บริการก็มักจะเป็นต่างชาติที่มาพักระยะยาว คนที่อยู่ประจำนาน ๆ มีบ้านอยู่ที่นี่ โรงแรมบางที่เขาก็จะแนะนำให้แขกมาใช้รถเขียวเลย เพราะว่าสะดวก มีรถออกทุก 10 นาที ค่ารถเท่านี้ ต่างชาติเขาก็จะชอบมากครับ

นอกจากนี้เราก็ยังมีบริการเช่าเหมารถสำหรับเที่ยวเต็มวัน เช่น ไปถ้ำพญานคร เขาวัง น้ำตกป่าละอู วัดห้วยมงคล ไร่องุ่น ถ้าเที่ยวใกล้ ๆ ก็จะได้วันละประมาณ 3-4 ที่ แต่ถ้ายิ่งระยะทางไกลก็จะแวะได้จุดเดียว เพราะมันใช้เวลาเดินทางเยอะครับ ถ้าลูกค้ามาเที่ยวกันเป็นกลุ่มใหญ่ หรือมารถไฟ ก็เรียกให้เราไปรับได้ ติดต่อผ่านผมแล้วก็มาคุยรายละเอียดกัน มากี่คน ต้องใช้รถประมาณกี่คัน ราคาเท่าไหร่ อยากให้ไปรับจุดไหน ส่งจุดไหน เวลากี่โมง บางครั้งถ้าผมไม่ได้ไปเองก็จะมีรถเครือข่ายไป เป็นคนที่เขารู้จักเส้นทางดี ๆ ถ้าจะแวะร้านอาหาร อยากไปเที่ยวไหนก็บอกเรา ถ้ามีเวลาเหลือเราก็จะพาไปแวะ หรือบางคนเหมาสำหรับฝากซื้อของก็มี เหมาไปแมคโคร บิ๊กซีก็มีครับ

พี่หนูมีแผนหรือไอเดียอะไรไหมที่อยากลองทำเพิ่มเติมไหม

ตอนนี้ใช้โทรติดต่อโดยตรงอย่างเดียวครับ ทางไลน์ยังไม่มี ส่วนพวกเส้นทางรองอย่างบ่อฝ้าย สมอโพรง บ่อนไก่ก็มีผู้โดยสารมาถามหาเรื่อย ๆ เพราะเดี๋ยวนี้มันสะดวกกว่าแต่ก่อน ถ้าหากมีการเปิดเส้นทางวิ่งก็คงมีผู้โดยสารเยอะ ทั้งชาวบ้านและเด็กนักเรียน แต่ในอนาคตก็ยังไม่แน่นอนว่าจะมีเส้นทางไหนเพิ่มบ้างครับ

พี่หนูคิดเห็นยังไงเกี่ยวกับบทบาทของรถเขียวต่อชีวิตประจำวันของคนหัวหินและนักท่องเที่ยว

มันก็พยุงไปด้วยกัน ผมยังพูดอยู่เลยว่าที่ตะเกียบเป็นยังไง ในหัวหินก็เป็นอย่างนั้น เศรษฐกิจมันพอ ๆ กัน ตอนนี้เหลือแต่พ่อค้า แม่ค้า ถ้าเราไม่พาลูกค้าไปเนี่ย ในตลาดก็ไม่มีคน หากเป็นเมื่อก่อนที่มีคอนเสิร์ต มีงานแจ๊สบ่อย ๆ เราก็วิ่งตลอดเลยครับ วิ่งกันทั้งคืนจนถึงเช้า ใครไหวรับหมด งานเลิกแล้วก็ยังวิ่งอยู่เลย แต่เดี๋ยวนี้มันไม่ค่อยมีงานอะไรพวกนี้แล้ว

ถ้าสมมติหัวหินจะมีงานอีเวนต์ ทางผู้จัด เทศบาล หรือททท. สามารถมาประสานให้รถเขียวเป็นคนคอยช่วยรับส่งได้ อย่างที่เขาจัดคอนเสิร์ตที่หาดหัวดอน ก็มีการเช่าที่วัด แล้วก็จ้างให้รถเขียวไปรับส่งตามจุด เวลาที่ชะอำมีคอนเสิร์ตก็จะมาใช้บริการรถเรา รับส่งให้ฟรีสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวงานชะอำ ผู้จัดงานนั้น ๆ เขาจะติดต่อเรามา ส่วนมากจะเป็นงานใหญ่ ๆ แล้วก็คุยว่าคันละเท่าไหร่ รับส่งจุดไหน รอบหนึ่งได้ประมาณ 20 คน ซึ่งถ้านับจริง ๆ ร่วม 30 ได้เลยครับ วัยรุ่นที่มากลุ่มใหญ่ ๆ เขาจะชอบกัน ช่วงสงกรานต์ก็มีต่างชาติมาเช่าเล่น ยิ่งมีอีเวนต์มากเท่าไหร่ รถตะเกียบก็จะยิ่งคึกคักมากเท่านั้น

อยากให้พี่หนูฝากอะไรถึงคนที่เคยใช้บริการ และคนที่ยังไม่เคยลองนั่งรถเขียวหัวหิน

รถเขียวมีให้บริการทุกวัน ทุกเวลา ตั้งแต่ 06:00-21:00 น. ครับ โดยปกติแล้วจะทิ้งห่างกันไม่เกิน 2 กิโลเมตร แต่บางทีถ้าเป็นช่วงเทศกาล หรือวันหยุดก็อาจจะช้านิดหนึ่ง แต่รอไม่เกิน 10 นาที ลูกค้ามารอจุดไหนก็ได้แล้วแต่ความสะดวก ถ้าเจอตรงไหนก็โบกได้เลยครับ

แล้วก็อยากฝากถึงผู้ที่อยากใช้บริการรถเขียว สำหรับกิจกรรม อีเวนต์ต่าง ๆ สามารถติดต่อมาทางเทศบาลหรือททท. หรือโทรหาผมโดยตรงได้ที่เบอร์ 089-799-7092 ครับ

และขอฝากความคิดถึงและขอขอบคุณผู้ใช้บริการทุกท่าน ที่ยังอุดหนุนช่วยเหลือกันอยู่ครับ มีโอกาสก็แวะเวียนมาใช้บริการกันต่อนะครับ ขอบคุณครับ

ข้อมูลติดต่อ

🚙 รถเขียวหัวหิน
📞 089-799-7092