วันนี้ทีมงานหัวหินทาวน์ได้มีโอกาสคุยกับเจ้าของร้าน “บ้านถั่วเย็น” หนึ่งในร้านที่อยู่คู่หัวหินมากว่าสิบปี และถือเป็นอีกหมุดหมายเช็คอินที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวออกเดินทาง ร้านนี้ขายอะไร นิยามของความ “แปลกแต่ไม่ประหลาด” คืออะไร บ้านถั่วเย็นกำลังเติบโตไปทางไหน ค้นหาคำตอบพร้อมกันผ่านบทสัมภาษณ์ได้เลย
แนะนำตัวพี่เก๋ จุดเริ่มต้น และแรงบันดาลใจในการเปิดร้าน “บ้านถั่วเย็น”
พี่เก๋-พุทธภูมิ ประพันธ์วงศ์ นะครับ ถ้าเป็นคนในพื้นที่ก็จะเรียกกันว่า “พี่เก๋ บ้านถั่วเย็น” เรื่องราวที่มาที่ไปของบ้านถั่วเย็นจริง ๆ แล้วก็ค่อนข้างเรียบง่ายและธรรมดา โดยส่วนตัวเป็นคนชอบทานถั่วทุกชนิดเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ประกอบกับช่วงวัยรุ่นมีโอกาสได้ไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศ ทำให้เราได้ลองทานและได้เห็นวัฒนธรรมการกินถั่วของแต่ละประเทศ จนปี พ.ศ. 2551 ตัดสินใจกลับมาอยู่หัวหินที่เป็นบ้านเกิดถาวร และเริ่มอยากทำธุรกิจที่ลงหลักปักฐานอยู่ที่บ้าน เราก็คิดว่าจะทำอะไรดี ก็เลยนำสิ่งที่ชอบและประสบการณ์ที่ได้รับในช่วงที่อยู่ต่างประเทศ บวกกับการศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมถึงคุณประโยชน์ของธัญพืชถั่ว ทั้งถั่วแดง ถั่วดำ และถั่วเขียว บ้านถั่วเย็นจึงมีจุดเริ่มต้นมาจากสิ่งที่เราชอบ ประสบการณ์ใหม่ที่เราได้รับ และสิ่งที่เราศึกษาเพิ่มเติมจนมีความรู้เกี่ยวกับมัน
สมัยเริ่มทำร้านตอนแรกเราก็สำรวจพื้นที่ในหัวหินว่าเขาทำธุรกิจอะไรกัน ซึ่งช่วงปี พ.ศ. 2551 ยังไม่มีกาแฟ Specialty แต่จะเป็นร้านกาแฟสด ต่อมาเริ่มมีผู้เชี่ยวชาญด้านการคั่วและกาแฟสดก็เป็นที่รู้จักในวงกว้าง เราก็อยากจะมีร้านคาเฟ่ เครื่องดื่ม ของหวาน แต่เรารู้ว่าถ้าจะกระโดดลงไปในธุรกิจที่เป็นกาแฟสดคือเรามาช้ากว่าเขา เราก็เลยสร้างตลาดใหม่ขึ้นมา คือ ตลาดถั่ว ที่ไม่ต้องแข่งกับใคร มันก็เป็นความคิดที่เรียบง่ายและธรรมดา แรก ๆ ก็เป็นสิ่งที่แปลกใหม่และท้าทายว่าจะไปได้หรือเปล่า กว่าจะเปิดร้านเราทั้งศึกษา ลองผิดลองถูก ประยุกต์จากสิ่งที่เราได้เห็นมา ตลอดจนคำนึงถึงเรื่องรสชาติให้ถูกปากคนไทย กินง่าย มีคุณประโยชน์ จนในที่สุดก็กลายมาเป็นเมนู “ถั่วเย็นปั่น” สมูทตี้ถั่วที่เป็นซิกเนเจอร์ของเรา
สำหรับชื่อบ้านถั่วเย็นนั้นก็มาจากความเรียบง่ายเช่นกัน คือเราอยากทำเมนูถั่ว ประกอบกับอากาศร้อนของเมืองไทย ได้กินถั่วที่มันเย็นชื่นใจ ภายใต้บรรยากาศที่เป็นมิตร สบาย ๆ เหมือนนั่งอยู่ในบ้าน ถ้าอย่างนั้นก็เป็นบ้านที่มีถั่วเย็น ๆ แล้วกัน เลยกลายมาเป็นชื่อ “บ้านถั่วเย็น”
ตอนนั้นที่เริ่มทำเมนูถั่วเย็นปั่นขึ้นมาก็นับว่ามันเป็นเมนูที่
แปลกแต่ไม่ประหลาด
เพราะถั่วเป็นสิ่งที่คนไทยคุ้นชิน ทั้งถั่วแดง ถั่วดำ ถั่วเขียวต่างก็อยู่กับวัฒนธรรมการกินของเราอยู่แล้ว แต่ความแปลกคือการที่เรานำถั่วทั้ง 3 ชนิดมาปรับรูปแบบการนำเสนอใหม่ ให้อยู่ในรูปแบบของสมูทตี้ถั่ว ซึ่งมันแปลกกว่าขนมไส้ถั่วแดง ขนมถั่วดำ หรือต้มถั่วเขียว แต่ไม่ได้ประหลาด เพราะฉะนั้นมันก็เลยเกิดการตอบรับได้ง่าย ตอนนั้นที่บ้านถั่วเย็นเราก็มีแค่เมนูเดียวคือถั่วปั่น ของหวานก็มีบ้างเป็นแค่ท็อปปิ้งถั่วอย่างเดียว ซึ่งคีย์เวิร์ดคือเราทำในสิ่งที่ แปลกแต่ไม่ประหลาด
จากบ้านถั่วเย็นสาขาแรกในตลาด สู่ถนนแนบเคหาสน์ จนมาสู่บ้านถั่วเย็น x The Life Space อะไรคือจุดพลิกผันให้ตัดสินใจเปลี่ยนแปลง
พี่ขอเล่าเป็น 2 ช่วง คือ จุดเปลี่ยนแรกจากตลาดแกรนด์มาถนนแนบเคหาสน์ จุดเปลี่ยนที่สองจากถนนแนบเคหาสน์มา The Life Space ทั้ง 2 ช่วงมีความเหมือนกันคือลูกค้าเป็นคนบอก เป็นคนที่ทำให้เราตัดสินใจเปลี่ยนแปลง เพราะสุดท้ายแล้วการดำเนินธุรกิจให้ยั่งยืนคือธุรกิจของเราสามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้หรือเปล่า การที่เราจะตัดสินใจอะไรสักอย่างต้องอิงจากความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก เขาอยากให้เราแก้ปัญหาอะไรให้ และจุดนี้ก็เป็นไฮไลท์ที่พี่อยากส่งถึงผู้ประกอบการหลาย ๆ ท่านด้วยครับ
จุดเปลี่ยนครั้งที่ 1 พี่ตัดสินใจย้ายจากตลาดแกรนด์ที่เป็นสถานที่แรกมาถนนแนบเคหาสน์ เพราะเราเห็นปัญหาแล้วว่าพอมีลูกค้าตอบรับเยอะขึ้น สนใจมากขึ้น แต่สถานที่ไม่อำนวย รองรับลูกค้าไม่พอ พนักงานและการบริการของเราไม่ทัน เราก็ใช้ส่วนนี้เป็นคีย์หลักในการแก้ปัญหาให้ลูกค้า โดยการมองหาสถานที่ใหม่ จนมาเจอตึกตรงถนนแนบเคหาสน์ จึงได้ขยับขยายจากบูธเล็ก ๆ พื้นที่ประมาณ 20 ตารางเมตร รองรับคนได้ไม่เกิน 10-15 คน ย้ายมาสถานที่ใหม่พื้นที่ใช้สอย 100 ตารางเมตร รองรับคนได้ถึง 100 ที่นั่ง กว้างขวางขึ้น มีที่จอดรถมากขึ้น แล้วก็เพิ่มเมนูอาหารขึ้นมา ให้มีทั้งของคาวและของหวานในพื้นที่เดียวกัน เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้า
จุดเปลี่ยนครั้งที่ 2 จากถนนแนบเคหาสน์มา The Life Space ลูกค้าก็เป็นคนบอกเหมือนกันครับ ตอนที่เราเริ่มต้นในปี พ.ศ. 2553 กับสถานการณ์ในปี พ.ศ. 2561 มันไม่เหมือนกัน ช่วงนั้นธุรกิจตอนกลางวันค่อนข้างเฟื่องฟู มีการตอบรับจากลูกค้าดี แต่พอถึงช่วงหนึ่งมันมีปัญหาเรื่องที่จอดรถไม่เพียงพอ การจราจรในตัวเมืองหัวหินช่วงเทศกาลก็ติดขัด เราเองก็สังเกตว่าลูกค้าเริ่มมีสัตว์เลี้ยงมากขึ้น ทำให้ตัวสถานที่ที่เป็นอาคารไม่ค่อยเหมาะที่จะอำนวยความสะดวกให้กับคนทุกกลุ่ม การที่เราจะเอากลุ่มคนที่ชอบสัตว์เลี้ยงและไม่ชอบสัตว์เลี้ยงมาอยู่ในพื้นที่เดียวกันมันเหมือนไม่ให้ทางเลือกแก่ลูกค้า เพราะฉะนั้นในปี 2561 เราก็เริ่มคิดว่าต้องมีการเปลี่ยนแปลง โดยอิงจากปัจจัยหลัก ๆ 3 ข้อ คือ ปัญหาเรื่องที่จอดรถ ปัญหาการจราจรในตัวเมือง และการรองรับลูกค้าทั้งกลุ่มที่มีและไม่มีสัตว์เลี้ยง
ประกอบกับพื้นที่ตรงนี้ที่เรามีมันห่างจากนอกตัวเมืองมาประมาณ 10 นาที มีถนนหนทางที่สะดวก ทำให้การเดินทางง่ายขึ้น อีกทั้งยังแก้ไขปัญหาให้ลูกค้าได้ทั้งหมด คือมีที่จอดรถสะดวกสบาย หลีกเลี่ยงการจราจรที่ติดขัดในตัวเมืองช่วงเทศกาล รองรับได้ทั้งกลุ่มคนที่ชอบและไม่ชอบสัตว์เลี้ยง Life Space แห่งนี้จึงเป็นพื้นที่ให้ทุกชีวิตมาแชร์ความสุขกันได้โดยที่ไม่รบกวนกัน นับเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้เราอยากเปลี่ยนแปลงย้ายมาสถานที่ใหม่ครับ
คอนเซ็ปต์ของบ้านถั่วเย็น x The Life Space นิยามร้านนี้ว่าคืออะไร
หากนิยามให้เห็นภาพชัด ๆ ได้ดีที่สุด คือ “Happiness is here and now” ช่วงที่เราทำธุรกิจใหม่ ๆ หรือช่วงที่เป็นวัยรุ่น เราอาจมีพลังบางอย่างที่อยากจะพุ่งไปข้างหน้า หรือเราอาจแสวงหาความสำเร็จ ซึ่งมันเป็นเรื่องปกติ แต่พอทำไปสักพัก เราจะรู้สึกว่าสุดท้ายแล้วสิ่งที่อยู่ใกล้เรามากที่สุด คือ ความสุข เราเลยเลือกที่จะดำเนินธุรกิจของบ้านถั่วเย็นให้เป็นไปในวิถีของคำว่า Happiness is here and now เพียงแค่มองกลับไปให้เจอว่าความสุขมันอยู่ข้างในใจเรา
ลูกค้าที่มาบ้านถั่วเย็นเราเข้าใจดีว่าแต่ละคนต่างก็มีภาระหน้าที่ มีสิ่งที่ต้องดิ้นรนต่อสู้ต่างกันไป เวลามีโอกาสได้แวะมาเยี่ยมบ้านถั่วเย็นเขาอาจมีเวลาได้หยุดสักพัก ใช้เวลาปล่อยวาง ผ่อนคลาย อยู่กับตัวเองสักครู่แล้วค่อยไปต่อ เขาอาจจะค้นพบว่าความสุขมันไม่ได้ยากหรือซับซ้อน The Life Space ของเราอยากเป็นพื้นที่ที่ให้คนได้มาใช้ชีวิต มาหาว่าความสุขจริง ๆ แล้วมันอยู่ใกล้ตัวมาก
ก็คงเป็นตัวเริ่มต้นที่ขาดไม่ได้ ตัวที่ทำให้บ้านถั่วเย็นเป็นบ้านถั่วเย็น คือ “ถั่วเย็นปั่น” เป็นสมูทตี้ที่ทำจากถั่วแดง ถั่วดำ และถั่วเขียว ลูกค้าสามารถเลือกได้ว่าอยากทานแบบไหน ถั่วแต่ละชนิดก็จะมีประโยชน์แตกต่างกัน ถ้าอยากได้คุณประโยชน์จากถั่วทั้ง 3 ชนิดอย่างครบถ้วนก็เลือกเป็นเมนูถั่วเย็นปั่น เรื่องความหวานหรือชนิดของนมก็สามารถเลือกได้ตามต้องการเช่นกัน เรามีนมพิสตาชิโอเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่แพ้แลคโตสจากนมวัว หรือสมูทตี้บางตัวเราเลือกใช้ความหวานจากน้ำตาลหล่อฮังก๊วยแทนความหวานจากน้ำตาลทรายขาว มีท็อปปิ้งให้เลือกทั้งงาดำ ธัญพืชรวม เพื่อให้ตอบโจทย์กับความต้องการของลูกค้าสมัยใหม่ที่หันมาใส่ใจเรื่องสุขภาพมากขึ้น
ขนมทานเล่นพี่แนะนำ “ตะโก้ถั่วแดง” เป็นอีกเมนูที่แปลกแต่ไม่ได้ประหลาด เราอาจจะคุ้นชินกับการทานตะโก้สาคู แต่ด้วยความที่เรามีเอกลักษณ์เป็นถั่วที่มีคุณภาพดีและอร่อยเมื่อนำมาเข้าคู่กันแล้วก็จะได้ความหวานตัดกับความเค็มของกะทิเข้ากันได้อย่างลงตัว
ส่วนอาหารของที่ร้านเราจะเน้นเป็นอาหารจานเดียว เป็นเมนูประยุกต์ระหว่างมัสมั่นไก่กับสปาเก็ตตี้ ปกติเราจะคุ้นชินกับการทานข้าวมัสมั่นไก่กับสปาเก็ตตี้ต่าง ๆ เราก็เลยทำเมนูตัวใหม่นำเสนอเป็น “สปาเก็ตตี้มัสมั่นไก่” ตอบโจทย์คนที่ชอบเส้นสปาเก็ตตี้แต่อยากได้ความเข้มข้นแบบมัสมั่น ก็เป็นอีกเมนูที่แนะนำและได้รับความนิยมจากลูกค้าครับ
นอกจากนี้เรายังมีเมนูพิเศษตามฤดูกาล เช่น ไอศกรีมโฮมเมดมะม่วง ไอศกรีมโฮมเมดมะพร้าวน้ำหอม ท็อปปิ้งด้วยถั่วแดง
ความท้าทายของการทำธุรกิจในหัวหินตอนนี้
หากมองในข้อดีตอนนี้เรามีน้อง ๆ รุ่นใหม่ที่มีความรู้ความสามารถเยอะมาก ทำคอนเซ็ปต์ร้านออกมาดีมาก มีรูปแบบ สไตล์ การนำเสนอ และตัวผลิตภัณฑ์ที่ดีมาก เป็นการเพิ่มเสน่ห์ให้กับตัวเมืองหัวหิน และเป็นจุดดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมีสถานที่ให้ไปเยอะขึ้น
ส่วนข้อจำกัดและความท้าทายบางทีมันเป็นปัจจัยภายนอกที่คนทำธุรกิจอาจจะทำอะไรไม่ได้มาก คือ ในเรื่องของสาธารณูปโภคพื้นฐาน เช่น ปัญหาการจราจรในเมือง ที่จอดรถไม่เพียงพอ ระบบน้ำประปาในเมือง การสนับสนุนต่าง ๆ ที่เป็นระบบของเมืองอาจจะยังไม่มากพอ สิ่งเหล่านี้ก็อาจจะส่งผลให้เป็นข้อจำกัดสำหรับนักท่องเที่ยวหรือคนทำธุรกิจได้
นอกจากนี้ภาคเอกชนเองก็พยายามรวมกลุ่มกันจัดงานเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว กระตุ้นการเข้าถึง ซึ่งก็ประสบความสำเร็จและได้ผลตอบรับดีมาก หากภาครัฐสามารถสนับสนุน และอำนวยความสะดวกได้ทัน มันก็จะยิ่งส่งเสริมให้ดีกว่านี้อีกเยอะมากเลยครับ
คำแนะนำสำหรับผู้ที่สนใจอยากเริ่มต้นทำธุรกิจคาเฟ่
ธุรกิจในเมืองไทยมันเกิดขึ้นได้ง่าย แต่ถ้าจะทำธุรกิจให้อยู่ได้ยืนยาวในมุมมองส่วนตัวของพี่เอง หัวใจสำคัญคือธุรกิจนั้น ๆ ต้องมีคุณค่าให้กับลูกค้า แน่นอนว่าคนที่ทำธุรกิจใหม่ ๆ มักจะมีเรื่องของแพชชั่นเป็นแรงบันดาลใจ เป็นตัวกระตุ้นให้เราทุ่มเทกับธุรกิจนั้น ๆ แต่ถ้าหากแพชชั่นที่เรามีมันสามารถช่วยแก้ไขปัญหาให้กับสังคม ลูกค้า หรือชุมชน ให้ชีวิตเขามีความสะดวกสบายขึ้น ธุรกิจของเราก็จะอยู่ได้ยืนยาวครับ
สิ่งที่อยากทำเพื่อพัฒนาให้ร้านบ้านถั่วเย็นยังครองใจลูกค้าได้อย่างยาวนาน
สิ่งที่อยากทำเพิ่มเติมหลังจากทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง คือ เราอยากมีประโยชน์กับชุมชนแถวนี้ให้มากกว่านี้ครับ ครั้งที่ยังอยู่แนบเคหาสน์เราสามารถมอบทุนการศึกษาให้นักเรียนได้ทุกปี ปีละประมาณ 2 ครั้ง การมอบโอกาสให้แก่เด็กสักคนได้มีการศึกษามันยิ่งใหญ่มาก มันอาจจะไม่ได้เห็นผลในวันพรุ่งนี้หรือปีหน้า แต่ถ้าเวลาผ่านไปอีกสัก 5-10 ปี จะเห็นได้เลยว่าการศึกษามันสามารถเปลี่ยนชีวิตคนคนหนึ่งได้เลย
ทำไมพี่ถึงเห็นว่าการศึกษาสามารถเปลี่ยนชีวิตคนได้ เพราะว่าตัวเราเองสมัยตอนเด็กมีโอกาสได้ทุนเรียนแล้วมันเปลี่ยนชีวิตเราจริง ๆ การศึกษาช่วยยกระดับชีวิต พาไปเจอสังคม พาไปพบโอกาสอีกมากมาย แล้วเด็กคนนั้นก็กลายมาเป็นคนที่สามารถกลับมาสร้างประโยชน์และตอบแทนสังคมได้อีกเยอะ เพราะฉะนั้นแล้วการให้โอกาสเด็กสักคนได้เรียนเท่าที่เขาอยากจะเรียน มันเหมือนกับการปลูกต้นไม้ใหญ่ สักวันเขาก็จะเติบโตและออกดอกออกผล ณ ตอนนี้สิ่งที่เราทำได้ คือ เพิ่มการจ้างงานในพื้นที่ แต่ความตั้งใจในอนาคตหากเรามีความพร้อมมากกว่านี้ก็อยากจะสร้างประโยชน์และคุณค่าให้กับโรงเรียน วัด ชุมชน หมู่บ้าน ระแวกที่เรามาอยู่ให้มากกว่านี้ครับ
สรุปส่งท้าย ฝากร้านบ้านถั่วเย็น x The Life Space และฝากผลงานอื่นๆของพี่เก๋
ปัจจุบันร้านบ้านถั่วเย็นของเราก็อยู่ในสถานที่แห่งใหม่ที่ไม่ได้อยู่ในตัวเมืองนะครับ เรียกว่า “บ้านถั่วเย็น x The Life Space” เป็นพื้นที่ที่สะดวกสบายให้กับทุก ๆ ชีวิต ทั้งคนและสัตว์เลี้ยง ภายใต้บรรยากาศร่มรื่น มีพื้นที่โซนต่าง ๆ การเดินทางสะดวกสบาย ออกจากตัวเมืองหัวหินมาประมาณ 10 นาที มีที่จอดรถให้บริการ รวมถึงเมนูทั้งเครื่องดื่ม ของหวานและอาหารครบครัน อยากเชิญชวนให้แวะมาที่นี่ก็จะช่วยอุดหนุนทำให้ชุมชนนอกเมืองมีการจ้างงานและมีการหมุนเวียนของเศรษฐกิจระแวกใกล้เคียงในย่านชุมชนหินเหล็กไฟนี้ด้วยครับ ก็เชิญชวนมาเที่ยวกันนะครับ
นอกจากนี้พี่ก็ยังมีโอกาสได้ไปทำสิ่งตอบแทนให้ชุมชนเมืองหัวหินมากขึ้น คือการที่ได้ไปเป็นคณะกรรมการช่วยงานของสมาพันธ์ SME ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นการรวมตัวของผู้ประกอบการในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ทุก ๆ อำเภอ ไม่ว่าจะเป็นหัวหิน ปราณบุรี สามร้อยยอด กุยบุรี บางสะพาน เพื่อช่วยกันผลักดันเศรษฐกิจชุมชนต่าง ๆ รวมถึงเราจะช่วยให้ผู้ประกอบการในพื้นที่ได้รับการผลักดัน การสนับสนุน เพิ่มศักยภาพในพื้นที่ทำให้ SME ในประจวบคีรีขันธ์เข้มแข็งมากขึ้น ก็อยากเชิญชวนผู้ประกอบการท่านอื่น ๆ หากพอมีเวลาว่างและสะดวกช่วยกันผลักดันก็อยากให้มาช่วยงานกันได้นะครับ ก็ขอฝากไว้เท่านี้ครับ
ข้อมูลติดต่อ
🥔 บ้านถั่วเย็น Baantuayen x The Life Space
📌 ถ.หัวหิน หนองพลับ ก่อนถึงวงเวียนบายพาสไปวัดห้วยมงคล
⏰ เปิดทุกวัน 08:30 – 17:00 น.
📱 062 639 6625
🗺 แผนที่ Google Maps