วันนี้เราอยู่กันที่ “จรัสภาวัน” ที่นี่ถูกยกให้เป็นโรงแรมติดทะเลที่สวยที่สุดในหัวหิน เสน่ห์ของบ้านเก่ากว่า 100 ปี ถูกเนรมิตมาเป็นบ้านพักอันสวยงาม ที่นี่เชื่อมเรื่องราวจากอดีตของหัวหินมาสู่ปัจจุบัน ความปราณีตถูกถ่ายทอดผ่านฝีมือของคุณจ๋า คุณจ๊อง และคุณจิ๋ว ทายาทรุ่นที่ 3 ของตระกูล สนิทวงศ์ ณ อยุธยา เรื่องราวของที่นี่จะเป็นยังไง ติดตามผ่านบาทสัมภาษณ์นี้ได้เลย
แนะนำตัวคุณจ๊อง และโรงแรมจรัสภาวัน
คุณจ๊อง ณิศวัฒน์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ทายาทรุ่นหลานของหม่อมหลวงทวีวัฒน์ สนิทวงศ์ และคุณหญิงณพรัตน์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา เล่าถึงความเป็นมาของจรัสภาวันว่า เป็นโรงแรมที่ปรับปรุงมาจากบ้านพักตากอากาศของคุณปู่และคุณย่า แต่เดิมเป็นวิลล่าทั้งหมด 5 หลัง ภายหลังได้รับการปรับปรุงเป็นบ้านพักจำนวน 4 หลัง ส่วนอีกหลังถูกปรับให้เป็นร้านอาหาร
จรัสภาวัน มาจาก “จรัส” คือชื่อคุณย่า “ภาวัน” เป็นภาษาสันสกฤต แปลว่า บ้านหลังใหญ่ แปลรวมกันจึงหมายความว่า “บ้านหลังใหญ่ของคุณย่าจรัส” ประกอบกับถนนที่ตัดผ่านหน้าบ้านชื่อ ถนนทวีวัฒน์ ซึ่งเป็นชื่อคุณปู่ ท่านตัดที่ดินของตัวเองยกให้สาธารณะ ทางเทศบาลหัวหินจึงตั้งชื่อไว้เป็นอนุสรณ์ให้แก่คุณปู่ พอเรามาทำตรงนี้เป็นโรงแรมก็เลยตั้งชื่อว่า “จรัสภาวัน” เพื่อให้คุณปู่และคุณย่าอยู่คู่กัน

ประวัติความเป็นมาของพื้นที่นี้ ก่อนจะมาเป็นบ้านพักในปัจจุบัน
ย้อนกลับไปในสมัยรัชกาลที่ 7 พระองค์เสด็จแปรพระราชฐานมาประทับที่วังไกลกังวล อำเภอหัวหิน ทำให้เหล่าข้าราชบริพาร และเจ้าขุนมูลนายที่ติดตามมาเริ่มจับจองและซื้อที่ดินในหัวหิน เป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างบ้านพักตากอากาศ เนื่องจากการพักตากอากาศสมัยนั้นมักอยู่กันครั้งละหลายเดือน ต้องเดินทางมาโดยรถไฟ คุณปู่คุณย่าเองก็ตามเสด็จเจ้านายมาเช่นเดียวกัน
คุณปู่เป็นมหาดเล็กในวัง เติบโตมาในวังของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารังสิตประยูรศักดิ์ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ส่วนคุณย่าถูกถวายตัวเป็นข้าหลวงในตำหนักพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเยาวภาพงศ์สนิท พระราชธิดาในรัชกาลที่ 5 ตั้งแต่อายุ 3 ขวบ คุณปู่ได้รับอานิสงค์จากการที่กรมพระยาชัยนาทนเรนทรค้นพบชายหาดเขาเต่า จึงซื้อที่ดินแปลงหนึ่งในหมู่บ้านเขาเต่าไว้ ซึ่งตอนนั้นเป็นเพียงหมู่บ้านชาวประมงที่ห่างไกลความเจริญ ไม่มีถนน ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีน้ำประปา การเดินทางเพียงอย่างเดียวคือ วัวเทียมเกวียนเดินเลียบมาตามชายหาดเท่านั้น
คุณปู่คุณย่าเริ่มจากการสร้างบ้านหลังเล็ก ๆ ก่อน และด้วยความที่ทั้งสองท่านมีลำดับอาวุโสเป็นรุ่นเล็กจึงได้พื้นที่ที่อยู่ไกลสุดชายหาด ได้อยู่ใกล้ชิดกับชาวบ้าน จึงมีความผูกพันและเป็นที่รักของชาวเขาเต่ามาก
จนปี พ.ศ. 2509 เป็นต้นมา รัชกาลที่ 9 ทรงเข้ามาพัฒนาเขาเต่าทำให้การเดินทางมาหัวหินไม่ได้ลำบากเหมือนแต่ก่อน เรามาที่นี่ทุกสัปดาห์ได้แล้ว เวลามาที่บ้านของคุณย่าจะคึกคักมาก บรรดาญาติมิตรต่างแวะเวียนกันมาไม่ขาดสาย ยิ่งช่วงเทศกาลจำนวนคนที่มาก็ยิ่งหนาแน่น คุณย่าท่านมีความสามารถในการเลี้ยงดูปูเสื่อทุกคนได้อย่างเต็มอิ่ม มาแล้วอยู่สบาย ติดทะเล มีอาหารอร่อยตลอดเวลา ได้รับการดูแลอย่างดี มีกิจกรรมให้ทำเยอะ ซึ่งต้นแบบของการบริหารที่นี่ก็มาจากคุณย่า ท่านเป็นเจ้าบ้านที่สุดยอดมาก ใครมาเป็นแขกแล้วคุณย่าไม่เคยปล่อยให้ไม่มีความสุขเลย
แรงบันดาลใจในการออกแบบ คอนเซ็ปต์ สถาปัตยกรรม
ส่วนไหนปรับเปลี่ยน ส่วนไหนอนุรักษ์ไว้ตามเดิม
ช่วงที่ไม่ได้มาเลยก็คือช่วงที่คุณย่าเสีย ประมาณปี พ.ศ. 2550 เป็นช่วงที่หลาน ๆ เริ่มแยกย้ายกันไปเข้าเรียนมหาวิทยาลัย ไปต่างประเทศ หลังจากนั้นก็ไม่ได้มีใครมาใช้เป็นประจำเหมือนเมื่อก่อน พอคุณย่าไม่อยู่แล้ว ก็เหมือนขาดเจ้าภาพ ไม่มีคนคอยดูแลคนที่จะมาแล้ว เราอาจจะแวะเวียนมาเพื่อดูสภาพบ้านบ้างปีละครั้ง สองครั้ง แต่บ้านคือสภาพร้าง สวนพังหมด ด้วยตัวบ้านอยู่ติดทะเล ประกอบกับช่วงเวลาสิบกว่าปีที่ไม่มีคนอยู่เลยมันจึงเสื่อมสลายเร็วมาก ๆ
ก่อนจะซ่อมแซมที่นี่เราก็ต้องศึกษากฎหมายของหัวหินก่อน ทั้งผังเมือง และระยะร่นจากชายหาด ได้ข้อสรุปว่าเราสร้างใหม่ไม่ได้ ซ่อมได้อย่างเดียว ห้ามเปลี่ยนแปลงขนาดหรือรูปแบบ ทุกอย่างต้องคงสภาพเดิมไว้ทั้งหมด ตัวบ้านเดิมอยู่ในระยะที่หากสร้างใหม่ต้องร่นออกไปอีก ทีนี้ความยากคือสภาพบ้านมันอยู่ไม่ได้แล้ว เราก็ต้องให้วิศวกรและสถาปนิกเข้ามาช่วยดู แล้วก็ต้องรื้อทุกส่วนออกมา เพื่อดูว่าโครงสร้างมันเป็นยังไง ภายนอกอาจจะเห็นเป็นเนื้อเดียวกัน แต่แท้จริงแล้วภายในประกอบไปด้วยโครงสร้างของแต่ละยุคสมัยเลย บ้านเดิมแต่แรกเป็นไม้ทั้งหมด ผ่านการต่อเติม ปรับปรุงด้วยเหล็ก ปูน คอนกรีต หลากหลายวัสดุรวมกันตลอดระยะเวลา 100 ปี ทางวิศวกรก็สรุปว่า ถ้าจะซ่อมในลักษณะนี้มันยากที่จะทำให้คงทน เราต้องคอยซ่อมตลอด แล้วก็จะไม่สามารถปรับปรุงให้เป็นไปตามคอนเซ็ปต์ของการใช้ชีวิตในยุคปัจจุบันได้
ดังนั้นจึงมาลงเอยที่ข้อสรุปว่า เราใช้รูปแบบทุกอย่างเหมือนเดิม โครงสร้างเดิม แต่เสริมความแข็งแรงเข้าไป เพื่อให้ไม่เป็นภาระสำหรับคนที่จะอยู่ต่อไปในภายหลัง ชิ้นส่วนไหนที่สามารถเก็บไว้ได้ก็เก็บไว้ทั้งหมด ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นไม้ เช่น พื้น ประตู หน้าต่าง เสา แล้วก็นำกลับมาใส่ที่เดิม ที่เราเห็นตอนนี้จึงมีทั้งของเก่าและของใหม่ ผสมปะปนกันอยู่
บ้านพักมีกี่หลัง มีความพิเศษแตกต่างกันยังไงบ้าง
บ้านพักจะแบ่งออกเป็นวิลล่าทั้งหมด 4 หลัง และอีกหลังเป็นร้านอาหารปวัน ฟังก์ชันการใช้งานโดยรวมจะเหมือนกันทั้งหมด คือ แบ่งเป็นห้องชุด แต่ละห้องชุดมี 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องนั่งเล่น ภายในจะไม่เหมือนกัน เนื่องจากโครงสร้างและลักษณะของบ้านแต่ละหลังไม่เหมือนกัน รวมทั้งหมด 8 ห้องชุด
แต่ละหลังถูกตั้งชื่อตามผู้อยู่อาศัยเดิม หลังใหญ่สุดคือ “วิลล่าทวีวัฒน์” (Villa Taweevadh) เป็นวิลล่าที่คุณปู่คุณย่าเคยอยู่ แบ่งออกเป็น 4 ห้องชุด ตั้งชื่อตามชนิดของเต่าทะเลที่พบในไทย ได้แก่ เต่าตนุ เต่าหญ้า เต่ากระ และเต่ามะเฟือง ด้านหน้าระเบียงของวิลล่าจะมีต้นอินทนิลน้ำที่คุณย่าปลูกไว้ตั้งแต่เริ่มสร้างบ้าน พร้อมออกดอกบานสะพรั่งให้ชื่นชมทุกปี

วิลล่าหลังที่ 2 คือ “วิลล่าแค๊กนี่” (Villa Cagney) ตั้งชื่อตามคุณพ่อ เป็นหลังที่คุณพ่อและคุณแม่ รวมถึงพี่น้องทั้ง 3 คนอยู่สมัยเด็ก แบ่งออกเป็น 2 ห้องชุด ได้แก่ ชั้นบน 1 ห้องชุด เรียกว่าแดนดี้สวีท และชั้นล่าง 1 ห้องชุด เรียกว่า คานารี่สวีท
วิลล่าหลังที่ 3 คือ “วิลล่า เดอ จอง” (Villa de Jong) เดิมเป็นบ้านพักของบริวารและผู้ติดตามคุณปู่คุณย่า ทั้งหมดเก้าครอบครัวด้วยกัน ชาวบ้านเขาเต่าจึงเรียกกันว่า บ้านเก้าห้อง
วิลล่าหลังที่ 4 คือ “วิลล่าวัลล์” (Villa Valaya) ตั้งชื่อตามคุณแม่และพี่สาว เดิมเป็นเรือนบริวารของคุณปู่คุณย่า อยู่ท่ามกลางสวนและมีสระว่ายน้ำส่วนตัวอยู่ตรงกลาง
วิลล่าหลังสุดท้าย เดิมเป็นบ้านที่คุณปู่คุณย่าสร้างไว้สำหรับรับรองแขกของครอบครัว ต่อมาถูกปรับปรุงเป็นร้านอาหารปวัน (Pawan Restaruant) ตามความชื่นชอบในอาหารและเครื่องดื่มของคุณจิ๋ว สูตรอาหารที่นี่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากสูตรดั้งเดิมของคุณย่า ซึ่งท่านเคยอยู่ในการดูแลของ ม.ร.ว.เตื้อง สนิทวงศ์ ปรมาจารย์ด้านอาหารของไทย ทำให้คุณย่าได้รับการถ่ายทอดและฝึกฝนวิชาการปรุงอาหารจากตำรับสายเยาวภา
ประสบการณ์และวิถีชีวิตแบบไหน ที่จรัสภาวันตั้งใจมอบให้แก่แขกผู้มาเยือน
หลังจากบ้านถูกทิ้งร้างมาสิบกว่าปี พื้นที่ตรงนี้มันไม่มีชีวิตชีวาเลย อะไรที่เราเคยเห็นเมื่อก่อนมันหายไปหมด ช่วงเทศกาลหรือวันหยุดยาว คุณย่าจะมีกิจกรรมร่วมกับชาวบ้านในหมู่บ้านเขาเต่าตลอด เช่น วันเด็ก คุณย่าก็จะแจกของขวัญให้เด็กทุกคน เลี้ยงอาหารกลางวัน กล่าวคำขวัญเล็กน้อย พอไม่มีคุณย่า สิ่งเหล่านี้ก็หายไปทั้งหมด ไม่มีความครึกครื้น ไม่มีกิจกรรมใด ๆ เดิมทีเราก็คิดแค่ว่าจะซ่อมบ้าน แต่ถ้าเราซ่อมก็จะได้แค่บ้านที่สวยงามกลับคืนมา ดังนั้นเราจึงสรุปกันว่า สิ่งสำคัญของที่นี่ คือ วิถีชีวิตของคุณย่าทั้งหมดเลย อะไรที่คุณย่าทำแล้วทำให้คนที่มาที่นี่มีความสุข เราก็อยากถ่ายทอดสิ่งนั้นออกไปเช่นกัน
เริ่มจากการมีบรรยากาศที่ดี มาแล้วได้รับการต้อนรับอย่างดี นอนสบาย อาหารอร่อย มีกิจกรรมให้ทำตลอดการพักแรม บางอย่างก็ต่อยอดจากสิ่งที่คุณย่าทำ เช่น ชายามบ่าย มาจากอาหารว่างตอนบ่ายของคุณย่า เวลาทุกคนทำกิจกรรมอะไรก็แล้วแต่พอตกบ่ายก็จะหิว คุณย่าก็จะมีอาหารว่างให้ทุกคนได้ทานกัน ซึ่งทุกมื้อจะไม่มีอะไรซ้ำกันเลย คุณย่าท่านมีความสามารถในการรังสรรค์เมนูใหม่ ๆ อยู่เสมอ สิ่งนี้ก็เป็นสิ่งที่เรานำมาปรับใช้และพยายามนำเสนอให้กับแขกที่มาพัก
สรุปส่งท้าย
ฝากข้อความถึงผู้ที่สนใจแต่ยังไม่เคยมา และแขกที่เคยมาใช้บริการ
สำหรับที่จรัสภาวันเราจะไม่เรียกแขกว่าลูกค้า แนวคิดนี้ก็ได้รับมาจากคุณย่าเช่นกัน ท่านเป็นเจ้าบ้านที่ยอดเยี่ยมมาก คุณย่าสามารถทำให้เขาเต่าและจรัสภาวันในยุคของคุณย่ามีความสุข มีชีวิตชีวา เต็มไปด้วยความทรงจำดี ๆ เพราะฉะนั้นเราจึงบอกพนักงานทุกคนว่า เราเป็นเจ้าบ้าน เป็นตัวแทนของคุณย่า เราจะทำให้ใกล้เคียงกับสิ่งที่คุณย่าทำที่สุด ให้ทุกคนมีความสุข ได้รับความทรงจำดี ๆ กลับไป เราจึงอยากให้ทุกคนเป็นแขกของเรามากกว่า
สำหรับแขกใหม่เราอยากให้ลองมา มาทานอาหารหรือมาพักก็ได้ เพราะเราไม่ใช่แค่โรงแรมที่ตั้งอยู่ที่อำเภอหัวหิน หรือให้บริการแค่ที่พักและอาหาร ถ้ามาที่นี่อย่างน้อยเราอยากให้ได้ความรู้สึกของความเป็นหัวหินแบบดั้งเดิมกลับไป มันมีอะไรมากกว่าการเป็นเมืองตากอากาศติดทะเล หรือเป็นแค่ชื่อของอำเภอ มันมีวิถีชีวิตที่เป็นเอกลักษณ์ที่อธิบายว่าหัวหินคืออะไร เคยเป็นยังไง ทำไมคนที่เคยมาใช้ชีวิตที่หัวหินในอดีตถึงประทับใจ ถ้าอยากรู้ว่ามันแตกต่างยังไง ทำไมถึงมีคำพูดว่า “หัวหินถิ่นมนต์ขลัง” อยากให้ลองมาค้นหาคำตอบได้ที่จรัสภาวันครับ
สำหรับแขกเก่าเราก็อยากขอบคุณครับ ตอนนี้ก็ประจวบเหมาะกับการเปิดกิจการครบรอบ 1 ปีพอดี เราได้รับความเมตตาจากแขกเก่าอย่างมาก เพราะเราเองก็ไม่ได้ทำการโปรโมทอย่างจริงจัง แต่ด้วยการบอกต่อของทุกคน ถึงการบริการและบรรยากาศของเรา ทำให้ได้รับผลตอบรับที่เกินคาดมาก มันก็เป็นกำลังใจให้เราว่า สิ่งที่แขกที่มาพักแล้วพูดต่อ มันคือสิ่งที่เราต้องการจะสื่อ ถ้าแขกเป็นรุ่นโตหน่อยที่เคยมาหัวหินเมื่อครั้งยังเด็ก เขาก็จะพูดว่ามันเหมือนหัวหินที่เขาเคยมาเมื่อ 40 – 50 ปีที่แล้วเลย ถ้าแขกเป็นคนรุ่นกลางและเด็ก ๆ เขาก็ได้รับความประทับใจแบบเดียวกับที่ตัวเราเคยได้รับตอนเด็ก ๆ ว่านอกจากสวย สงบ ทำเลดี นอนสบาย อาหารอร่อย แล้วการบริการก็ยังดีเยี่ยมอีก ต่างจากโรงแรมอื่นที่เขาเคยไปพัก สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่คุณย่าเคยทำให้เราทั้งสิ้น แขกที่มาพักได้รับในสิ่งที่เราต้องการให้เป็น ได้เติมเต็มความรู้สึกของหัวหินที่เราเคยสัมผัส อย่างน้อยเราก็ยังคงรักษาบรรยากาศแบบนั้นไว้ได้ที่นี่
ข้อมูลติดต่อ
▶ Facebook
🌐 Charrasbhawan.com
📞 +66 83 524 5329
🗺 Google Maps