บรรยากาศของบ้านเก่าที่ตั้งเด่นอยู่กลางสี่แยก เรือนไม้ที่ผ่านกาลเวลามากว่า 80 ปี ที่นี่ “เจ๊กเปี๊ยะ” ชื่อร้านที่อยู่มานานจนกลายเป็นชื่อย่านที่ทุกคนรู้จักกันดี ร้านที่ยังคงเสิร์ฟความอร่อยให้ทุกคนอย่างไม่เปลี่ยนแปลง วันนี้เราอยู่กับ “เจ๊ท้อ” ทายาทรุ่นสองของร้านเจ๊กเปี๊ยะ ผู้สานต่อที่หวังให้ตำนานอยู่ต่อเป็นร้อยปี เรื่องราวของร้านนี้เป็นยังไง ความพิเศษที่ทำให้ร้านยืนระยะมาได้นานขนาดนี้อยู่ที่ตรงไหน มารับรู้เรื่องราวของร้านนี้ไปพร้อมกันผ่านบทสัมภาษณ์นี้ได้เลย
แนะนำตัวเจ๊ท้อ และร้านเจ๊กเปี๊ยะ เวลาเปิด-ปิด ขายอะไรบ้าง
เจ๊ท้อนะคะ ร้านกาแฟเจ๊กเปี๊ยะ เป็นกาแฟพร้อมอาหาร รอบเช้าเปิดตั้งแต่ 06:15 – 12:15 น. จะเป็นอาหารเช้าล้วน มีข้าวมันไก่ ข้าวหมูแดง ข้าวขาหมู ก๋วยเตี๋ยว ข้าวต้ม โจ๊ก เกาเหลาเลือดหมู ส่วนรอบเย็นเป็นอาหารทะเลอย่างเดียว ขายประมาณ 2-3 ชั่วโมง เปิดตั้งแต่ 17:00 – 19:30 น. แต่สามารถนั่งทานได้ถึงสองทุ่ม
ประวัติและความเป็นมาของร้าน “เจ๊กเปี๊ยะ” ชื่อนี้มีที่มายังไง เปิดมากี่ปีแล้ว
“เจ๊กเปี๊ยะ” มาจากชื่อของเตี่ย เดิมร้านชื่อ “เจี๊ยเส็ง” แต่คนไม่ค่อนเรียก คนแถวนี้เขาก็จะเรียกกันว่า ร้านเจ๊กเปี๊ยะ ตามชื่อของเตี่ย “จุ้นเปี๊ยะ แซ่อึ๊ง” ตรงนี้ก็เลยกลายมาเป็นสี่แยกเจ๊กเปี๊ยะ ส่วนบ้านหลังนี้สมัยก่อนเป็นบ้านที่ขายตุ๊กตาหอย เราย้ายมาอยู่ที่นี่ตั้งแต่อายุ 7 ขวบ จนตอนนี้ก็อายุ 72 แล้ว ถ้านับว่าขายอาหารมาก็ประมาณ 80 ปีแล้วนะ แรก ๆ มีอยู่แค่ไม่กี่เจ้าเอง แต่ถ้าเป็นรวมร้านอาหารเช้าแบบปัจจุบันก็ประมาณ 50 ปี ซึ่งจริง ๆ เตี่ยไม่ได้อยากเปิดร้านกาแฟ แต่พอดีรู้จักกับพ่อครัวที่เปิดร้านกาแฟอยู่ พอเขาจะไปเมืองจีนก็เลยเซ้งร้านให้ เขาก็สอนให้หมดเลย อย่างโต๊ะในร้านเนี่ยประมาณ 80-90 ปีแล้ว อย่างเตี่ยถือว่าเรื่องกาแฟนี่เป็นของแท้เลยนะ
ที่นี่เราอยู่กัน 3 คนพี่น้อง เป็นคนหัวหินแท้ ๆ เลย แต่ว่าย้ายมาจากเพชรบุรี เรากับพี่ก็จะชงกาแฟไม่เหมือนกัน แต่น้องชายชงกาแฟร้อน ใช้พฤติกรรมแบบเดียวกับเตี่ยเป๊ะ ๆ เลย ไม่หวานคือไม่หวานแบบที่เขาทำ เราเป็นคนดูแลจัดการบริหาร คิดเงินบ้าง คอยคุม พี่ก็ช่วยดูบ้าง ส่วนน้องชายจะเป็นมือชงกาแฟหลักเลย แต่จริง ๆ เมื่อก่อนเราเป็นคนชง ช่วงเช้าเราจะเป็นคนชงรอบแรก พวกชา กาแฟ โอเลี้ยง ที่เป็นแบบเย็นนะ ชงให้เสร็จพร้อมเสิร์ฟ พอเป็นแบบร้อน แล้วก็รอบต่อ ๆ ไปก็จะเป็นน้องชายชง เพราะเราต้องออกมาอยู่ข้างหน้าแล้ว
ความตั้งใจแรกในการทำร้าน ตั้งใจไว้ว่าอยากให้เป็นยังไง และปัจจุบันเป็นดังที่หวังไว้มั๊ย
เมื่อก่อนตลาดใหญ่จะอยู่ในตลาดฉัตรไชย พอเขาจะรื้อทำเป็นตึกก็เลยทำให้คนที่ขายของอยู่ต้องออกมาขายตามมุมสี่แยก แล้วก็ย้ายกันมาเรื่อย ๆ คนที่มาอยู่หน้าบ้านนี่ก็ลำบากทุกคน บางคนไม่เคยขายอะไรมาก่อนเลย บางคนมาจากที่อื่น แล้วก็มาขออยู่ ตอนนี้มีทั้งหมด 6 ร้าน แต่มีอาหารหลายสิบอย่าง
เรายังใช้ของเหมือนเดิมทุกอย่าง พ่อแม่เคยใช้แบบไหน เราก็ยังใช้แบบนั้น เมล็ดกาแฟที่ใช้ก็เป็นกาแฟเพียว ๆ พยายามที่จะรักษาคุณภาพไว้ สมัยเตี่ยจะเป็นคนพื้นบ้านมานั่งกินกาแฟ แล้วก็นั่งทั้งวัน แต่พอมีร้านอาหารแบบนี้ ก็เริ่มมีลูกค้าที่อื่นเข้ามา ยิ่งช่วงเทศกาลถ้าต้องรอคิวยาวเขาก็รอ เราก็ต้องบริหารจัดการให้ดี แต่พอคนขายมีหลายเจ้ามันก็เวียนกันทำได้ไว เมื่อก่อนเราขายถึงบ่ายสองโมงเลยนะ แล้วตอนหลังก็ค่อย ๆ ร่นเวลาเข้ามา ทุกคนก็โอเค เราก็ขายด้วยกันได้
จุดเริ่มต้นของการเลือกแต่ละร้านให้มาอยู่ในร้านเจ๊กเปี๊ยะ เจ๊ท้อมีวิธีการคัดเลือกยังไง
สมัยก่อนมีแค่ร้านกาแฟ ร้านข้าวแกง แล้วก็ร้านก๋วยเตี๋ยวเท่านั้นเอง พออายุเริ่มเยอะขึ้น ร้านข้าวแกงก็เลิกไป ทีนี้มันเริ่มมีหลายเจ้าเพราะว่าหัวหินเริ่มบูม แต่เราค่อนข้างที่จะเลือก ต้องให้เราดูว่าจะขายอะไร อย่างน้อย ๆ ต้องทำพออร่อย ถ้าขายที่นี่ต้องขายไม่เหมือนคนอื่น ต้องจัดการทุกอย่างเองหมด ถ้าเป็นคนจีนจะพูดกันว่า เสื่อผืนหมอนใบ แล้วก็ส่งต่อกันมาเรื่อย ๆ ถ้าเป็นเถ้าแก่ก็ให้ลูกน้องทำ ถ้าเป็นแม่ก็ให้ลูกทำ แต่ละร้านอยู่กันมาตั้งแต่แรกเลย อย่างต่ำก็ 20 ปี เราไม่ได้เปลี่ยนเจ้าเลยนะ แล้วตรงนี้มีโต๊ะ เก้าอี้ ไม่มีฝน ทุกอย่างเราเป็นคนซ่อมและดูแลหมด น้ำไฟพร้อม มีชื่อเสียง มีลูกค้า ก็เลยไม่มีใครอยากไปจากที่นี่
อย่างร้านเกาเหลาที่ขายอยู่ตอนนี้ แรก ๆ ก็ทำไม่เป็นเลย แล้วก็เริ่มทำได้อร่อยขึ้นจนติดตลาดไปแล้ว หรือร้านก๋วยเตี๋ยวที่เราได้มา โชคดีที่เขาเป็นคนขายก๋วยเตี๋ยวเก่าแก่ที่มีฝีมือ แล้วเราว่ารสชาติดี อร่อยไม่แพ้ใคร ถั่วและพริกคั่วเอง กากหมูทำเอง เราก็เลยบอกว่าถ้าอย่างนั้นก็ขายเลย แต่กำไรอาจจะไม่เยอะนะ เอาพออยู่ได้ เพราะเราไม่ได้คิดค่าที่แพงเลย
คิดว่าอะไรคือจุดดึงดูดของที่นี่ที่ทำให้ลูกค้าติดใจและกลับมา
ลูกค้าเก่า ๆ เขาก็ยังกินกาแฟเราอยู่นะ แล้วก็ชมว่ากาแฟดี บรรยากาศดี ยังเหมือนเดิม ในร้านนี่กาแฟจะเก่าแก่ที่สุดเลย รองลงมาก็จะเป็นโจ๊ก เกาเหลาเลือดหมู ลูกค้าเขาก็จะค่อย ๆ ชิม แล้วแต่ว่าใครชอบทานอะไร เราว่าอาหารเช้าของเรารสชาติไม่แพ้ใครในหัวหิน
จากวันแรกจนวันนี้ร้านเจ๊กเปี๊ยะมีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมบ้าง
ตัวร้านเปลี่ยนหมดเลย แต่บ้านยังเป็นทรงเดิม พอนาน ๆ เข้าเป็น 80 ปี บ้านมันเก่ามาก เราก็ต้องค่อย ๆ ซ่อมไป เริ่มจากทำข้างล่างให้เสร็จก่อน ส่วนข้างบนพอฝนตก น้ำรั่ว ไม้มันเก่า เราก็ต้องรื้อข้างบนใหม่หมด เปลี่ยนหลังคา แต่ภายนอกยังคงสภาพเดิมไว้ทุกอย่าง ใช้โครงสร้างเดิม และใช้ไม้จริงทั้งหมด เรายังชอบบ้านแบบเดิม เราดูแลเยอะ เพราะเราก็รักอาชีพของเรา มันทำใจไม่ได้จริง ๆ คนก็มาถ่ายรูปเยอะมาก
สมัยก่อนที่นี่ราคา 10-12 บาทเอง ตอนนี้ของมันแพงจนควบคุมยาก แต่ก็ยังเป็นราคาทั่วไป 50-80 บาท ส่วนเมนูอาหารเช้ากลุ่มนี้อยู่มา 40-50 ปีแล้ว แต่ว่าอาหารเย็นจริง ๆ เมื่อก่อนไม่ได้มีมากขนาดนี้ เดิมขายจิ้มจุ่มเป็นหลัก เพียงแต่ตอนหลังเขาเพิ่มอาหารเข้ามาอีก 20-30 อย่าง ให้มันหลากหลายขึ้น เจ้าของร้านเขาขายด้วยความตั้งใจ ใช้วัตถุดิบดี แล้วก็อยากให้ลูกค้าได้ทานของดี ๆ
ในมุมมองของเจ๊ท้อ หัวหินในสมัยก่อนและปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปมากน้อยแค่ไหน
สมัยก่อนหัวหินไม่มีคน ช่วงเสาร์-อาทิตย์ก็ไม่มีคน จะมีก็แค่ตอนที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 เสด็จ สักประมาณ 3 เดือนเท่านั้นเอง กลุ่มลูกค้าดั้งเดิมสมัยก่อนเป็นกลุ่มชาวบ้าน ตำรวจพลร่ม ทหาร แล้วก็ค่อย ๆ หายไป เราจะขายคนพื้นบ้านเยอะ ต่อมาก็จะเริ่มเป็นชาวบ้านแถวนี้มาซื้อ แล้วพอหัวหินมันกระจายไปโซนด้านหลังเขา ตั้งแต่สมอโพรง ตลาดนัดไดโนเสาร์ คนก็ไม่ค่อยมาทางนี้แล้ว เราก็เริ่มได้ลูกค้าที่ไปใต้แล้วกลับมาหัวหิน แต่ตอนนี้ลูกค้าคนหัวหินมีน้อยมากสัก 10 % นอกนั้นก็จะเป็นคนกรุงเทพฯ ที่มาบ่อย ๆ แล้วแวะมากินเรา ลูกค้าเรามีหลากหลายกลุ่ม แต่ก็เป็นนักท่องเที่ยวเป็นหลัก
ช่วงโควิดให้ขายฟรีเลย เพราะทุกคนก็ลำบาก เราเปิดร้านบ้าง ปิดร้านบ้าง พอหลังโควิดก็พออยู่ตัว แต่เอาจริง ๆ ปีที่แล้วก็ยังไม่ดีนะ มาต้นปีนี้ยังพอจะดีขึ้นมาหน่อย แต่คนไม่มีกำลังซื้อ เดือนที่แล้วมีคนจีนเยอะเลย แต่ช่วงปลายเดือนสิงหาคมเริ่มไม่มีแล้ว ลูกค้ามากันเป็นกลุ่มเล็ก ๆ ประมาณ 2-3 โต๊ะ
สรุปส่งท้าย ฝากข้อความถึงลูกค้าที่ยังไม่เคยมา และลูกค้าเก่าที่มาประจำ
สำหรับคนที่ไม่เคยมาที่นี่อยากให้ลองมาชิมอาหารเรา เพราะมีให้เลือกเยอะและหลากหลายมาก ราคาไม่แพง แล้วก็รสชาติดีไม่แพ้ใคร มื้อเย็นเป็นอาหารทะเลจานใหญ่ ราคาถูก ลองมาชิมกันดูนะ เราว่าอาหารเช้าและเย็นของเราไม่น่าผิดหวัง
ส่วนลูกค้าเก่า ๆ บางวันคนเยอะก็อาจจะมีรอคิวบ้าง บางวันก็ไม่เยอะ มันไม่แน่นอน แต่เราก็ยังเป็นแม่ค้าคนเดิมที่อยู่กันมานาน ฉะนั้นอาหารเราก็ยังเป็นฝีมือเหมือนเดิมทุกอย่าง อาจจะพัฒนาขึ้นด้วย บางคนพาลูกมาเลย บอกว่ามากับพ่อแม่ตั้งแต่เด็ก ๆ เขาก็จะได้กินรสชาติเดิมแบบที่เคยกิน เพราะเราไม่ได้เปลี่ยนร้านขายของเลย ถ้าคิดถึงเราก็แวะมาได้
ข้อมูลติดต่อ
🍲 ร้านเจ๊กเปี๊ยะ หัวหิน
📌 ซอยหัวหิน 57
⏰ 06:15 – 12:15 น. // 17:00 – 19:30 น.
📞 032 511 289
▶ Google Maps ร้านเจ๊กเปี๊ยะ