เจริญดี “ช็อกโกแลตตามฤดูกาล” เรื่องราวจากสวนโกโก้ป่าละอู สู่เวทีระดับโลก

จากต้นโกโก้ที่ถูกปลูกแซมไว้ในสวนทุเรียน สู่การทดลองแปรรูป และกลายมาเป็นแบรนด์ช็อกโกแลตไทยที่คว้ารางวัลระดับโลก วันนี้ HuaHin Town จะพาคุณไปรู้จัก “เจริญดี ช็อกโกแลต” เรื่องราวที่สะท้อนพลังของความพยายาม และความเชื่อมั่นในวัตถุดิบไทย

จุดเริ่มต้นของ “เจริญดี ช็อกโกแลต” มีที่มาอย่างไร

บอส: บอส-อภิชา สิริวรกุลครับ เป็นผู้ก่อตั้งและเจ้าของแบรนด์ “เจริญดี ช็อกโกแลต” ดูแลกระบวนการผลิตช็อกโกแลตทั้งหมด ตั้งแต่การหมัก การตาก การคั่ว และ ออกแบบรสชาติ จนออกมาเป็นช็อกโกแลตครับ

แคนดี้: แคนดี้-สรินทรา สงวนวารินทร์ค่ะ เป็นผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์ “เจริญดี ช็อกโกแลต” ดูแลในส่วน R&D และออกแบบรสชาติ พัฒนาผลิตภัณฑ์ รวมถึงทำการตลาดให้กับแบรนด์เจริญดีช็อกโกแลตค่ะ

บอส: จุดเริ่มต้นมาจากครอบครัวไปเที่ยวบาหลี ประเทศอินโดเนเซีย ป๊ากับม้าเห็นต้นโกโก้แล้วรู้สึกชอบรูปทรงของต้นไม้ จึงตัดสินใจซื้อต้นโกโก้มาปลูกที่สวนของตนเอง ที่ป่าละอู ซึ่งเป็นพื้นที่ของครอบครัวที่ตั้งใจใช้เป็นที่พักหลังเกษียณครับ

แคนดี้: แต่เดิม ป๊ากับม้าปลูกต้นทุเรียนและปลูกต้นไม้อื่น ๆ ผสมผสาน และมีพื้นที่ว่าง จึงปลูกต้นโกโก้แซมไว้ ปรากฏว่าผลผลิตออกเยอะ บอสจึงเริ่มคิดว่าอยากจะลองนำผลผลิตโกโก้ในสวน มาแปรรูปเป็นช็อกโกแลต และถ้าทำได้ คงจะดีและต่อยอดได้มากเลยค่ะ

บอส: ในช่วงเวลาก่อนที่จะเริ่มทำช็อกโกแลต ที่สวนของเรามีการทดลองหมักเมล็ดโกโก้อยู่แล้วครับ แต่ตอนนั้นยังทำแค่เมล็ดแห้งอย่างเดียว (หมักและตากเมล็ดโกโก้)

ไม่ได้แปรรูปเป็นช็อกโกแลต เราเองก็เป็นเหมือนคนทั่วไปที่ชอบกินช็อกโกแลตอยู่แล้ว จนกระทั่งได้ศึกษาคราฟต์ช็อกโกแลตจริง ๆ ถึงได้รู้ว่าเป็นสิ่งน่าหลงใหล และเรียนรู้ว่า การทำช็อกโกแลตนั้น สามารถทำอะไรได้หลากหลาย 

มีรสชาติที่ซับซ้อนน่าสนใจ ประกอบกับความตั้งใจอยากให้สวนสามารถเลี้ยงตัวเองได้ เราจึงเริ่มลงมือแปรรูป และมุ่งมั่นที่จะทำให้คุณภาพออกมาดีที่สุดครับ

มีช็อกโกแลตกี่แบบ กี่รสชาติ

แต่ละแบบมีแนวคิดหรือเอกลักษณ์ยังไงบ้าง

แคนดี้: สินค้าหลักของเราเริ่มจาก “ช็อกโกแลตบาร์” (แบบแท่ง) ที่ทำจากเมล็ดโกโก้ในสวนเราเองทั้งหมดค่ะ โดยแบ่งเป็น 3 ฤดูกาล เนื่องจากเราพบว่า แม้จะใช้ผลโกโก้จากสวนเดียวกัน แต่รสชาติแต่ละรอบหมักก็แตกต่างไปตามสิ่งแวดล้อม การควบคุมอุณหภูมิ และจุลินทรีย์ท้องถิ่นในช่วงเวลานั้น ๆ ซึ่งเราไม่ได้แต่งเติมรสชาติใด ๆ เพิ่มเติมเข้าไปเลยค่ะ ทุกอย่างมาจากกระบวนการธรรมชาติทั้งหมด เพียงแค่ฤดูกาลและสภาพแวดล้อมเปลี่ยน คาแรกเตอร์ของช็อกโกแลตก็มีความต่างกันไปได้ 

เราจึงสร้างคอนเซ็ปต์ “ช็อกโกแลตตามฤดูกาล” โดยใช้เมล็ดโกโก้จากฤดูกาลนั้น ๆ มาผลิต ทำให้ตัวช็อกโกแลตมีเอกลักษณ์รสชาติที่บอกเล่าเรื่องราวของฤดูกาลนั้นได้อย่างชัดเจน อย่างเช่น Rainy Bliss (ช็อกโกแลตที่ทำจากเมล็ดโกโก้ เก็บเกี่ยวในช่วงฤดูฝน) ที่คาแรกเตอร์โดดเด่น มีความเป็นผลไม้เบอร์รี เป็นต้น

บอส: ผลผลิตโกโก้เก็บได้เกือบทั้งปี รสชาติของช็อกโกแลตจะเปลี่ยนไปตามฤดูกาล และการออกแบบวิธีการหมัก การตาก การคั่วเมล็ดโกโก้และทำออกมาเป็นช็อกโกแลต ทำให้แต่ละแบบมีคาแรกเตอร์เฉพาะตัวครับ

แคนดี้: อีกโปรดักต์หนึ่งที่ทางเราทำออกมาคือ “ชาเปลือกโกโก้” เราใช้เปลือกที่เหลือจากการคั่วและกระเทาะเปลือกเมล็ดโกโก้

นำมาเบลนด์กับชาหรือดอกไม้อื่น ๆ เช่น กุหลาบ หรือชาอู่หลง เพื่อเพิ่มมิติรสชาติ และบางสูตรยังสามารถนำไปเป็นไอเดียในการทำรสชาติช็อกโกแลตบาร์ได้อีกด้วยค่ะ

บอส: แล้วเรายังมี “เครื่องดื่มช็อกโกแลต” เป็นช็อกโกแลตบรรจุกระป๋อง ทำจากช็อกโกแลตผสมกับนม ให้ลูกค้าเลือกจากรสของช็อกโกแลตบาร์ที่ชอบ ซึ่งจะเหมาะกับคนไทยที่คุ้นเคยกับวัฒนธรรมเครื่องดื่มครับ

แคนดี้: เราพยายามทำโปรดักต์ให้หลากหลาย เพราะบางคนอาจไม่ถนัดกินช็อกโกแลตบาร์ แต่อย่างน้อย ทุกคนสามารถรู้จักและสัมผัสรสชาติช็อกโกแลตผ่านรูปแบบอื่นได้ เช่น ชาเปลือกโกโก้ ซึ่งยังคงได้ประโยชน์และความอร่อยที่แตกต่างกันค่ะ

อะไรคือปัจจัยที่ทำให้เมล็ดโกโก้ของแต่ละสวนมีรสชาติและคาแรกเตอร์ที่ไม่เหมือนกัน

บอส: จริง ๆ แล้วแต่ละพื้นที่ก็จะมีความแตกต่างกันหมดเลยครับ ขึ้นอยู่กับการดูแลสภาพแวดล้อมและกระบวนการทางการเกษตร ไม่ว่าจะเป็นการหมักหรือการตาก มีผลต่อรสชาติเป็นอย่างมาก อีกอย่างคือสายพันธุ์ของโกโก้ ในไทยส่วนใหญ่จะเป็น “ลูกผสมชุมพร” ที่มาจากศูนย์วิจัยพืชสวนชุมพร นำมาปรับแต่งและกระจายปลูกทั่วประเทศ ทำให้ในสวน ๆ หนึ่งอาจมีทั้งลูกสีเหลือง สีแดง หรือผสมหลายพันธุ์อยู่ร่วมกันครับ

ถ้าเป็นงานคราฟต์ การคุมรสชาติให้เหมือนเดิม 100% นั้นค่อนข้างยากครับ เราจึงพยายามสื่อสารออกไปในทางของ “ฤดูกาล”  แต่ละรอบเก็บเกี่ยวรสชาติจะไม่เหมือนกันทั้งหมดทีเดียว อีกทั้งเราศึกษาและทดลองตลอดเวลา และทำให้ในรอบถัดไป รสชาติก็อาจเปลี่ยนไปได้ เพื่อการพัฒนาที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ ครับ

ผลงานที่คว้ารางวัลจนถึงตอนนี้มีอะไรบ้าง

และแต่ละรางวัลมีความหมายกับแบรนด์อย่างไร

บอส: รางวัลแรกสุดที่ได้เลยเป็นประเภทเครื่องดื่มครับ นอกจากนี้ยังมีช็อกโกแลตอีกตัวที่ใช้การหมักแบบดั้งเดิมจากสวน รสชาติจะต่างจากตัวฤดูกาลที่มีความผลไม้เพราะใช้วิธีการหมักต่างกัน เบลนด์เมล็ดจากสามฤดูกาล และใช้น้ำตาลมะพร้าวให้มีความกลมกล่อมลงตัว ซึ่งตัวนี้เราส่งประกวดแล้วได้ เหรียญทอง ถือว่ายากมาก ๆ เพราะแม้แต่การได้เหรียญทองแดงนั้นก็ถือว่ายอดเยี่ยมแล้วครับ

แคนดี้: ตอนออกบูธครั้งแรกเมื่อต้นปี 2024 เราทำตัวฤดูกาลออกมาก่อน จากนั้นก็เริ่มทำ “ป่าละอูซิกเนเจอร์” เพราะอย่างที่บอสบอก มันทำให้นึกถึงช่วงที่เราเริ่มหมักโกโก้กันในช่วงแรก

สำหรับเวทีประกวดระดับโลกหลัก ๆ จะมีอยู่สองเวทีค่ะ คือ “International Chocolate Awards” จากประเทศอิตาลี และ “Academy of Chocolate” จากประเทศอังกฤษค่ะ ซึ่งเราส่งประกวดทั้งสองเวที ตอนแรกก็กังวล เพราะการส่งช็อกโกแลตไปต่างประเทศต้องระวังหลายอย่าง เช่น เรื่องการละลาย และระยะเวลาค่ะ

สำหรับ International Chocolate Awards จะมีรอบ Asia-Pacific ก่อน และถ้าเราได้รางวัลในรอบนี้ถึงจะมีสิทธิ์ส่งเข้ารอบ World ค่ะ

จุดแข็งของแบรนด์เราคือ Single Farm, Single Origin Pala-U ค่ะ คือใช้วัตถุดิบจากสวนของเราเองสวนเดียว ที่ป่าละอู ทำให้เราควบคุมคุณภาพเองตั้งแต่ต้นโกโก้ จนกระทั่งเป็นช็อกโกแลต และล่าสุดนี้ เราได้รับเหรียญทองประเภทเครื่องดื่มจากการใช้ชาเปลือกโกโก้เบลนด์กับดอกไม้ เป็นอีกหนึ่งรางวัลที่เราภูมิใจเช่นกันค่ะ เป็นการทำ Zero Waste ได้อย่างแท้จริง จากการทำช็อกโกแลตค่ะ

ถ้าใครอยากลองชิม หรืออยากรู้จักเจริญดี ช็อกโกแลตให้มากขึ้น

สามารถติดตามหรือหาซื้อได้จากช่องทางไหนบ้าง และในอนาคตมีแผนจะวางจำหน่ายหรือขยายช่องทางยังไง

แคนดี้: สามารถติดตามเราได้ผ่าน Facebook, Instagram และ Tiktok ค่ะ ปัจจุบันสามารถหาซื้อได้ที่ ร้าน Rock n’ Roast, Ob Oon Pâtisserie, G Huahin Resort&Mall ในหัวหิน และ ร้าน Choch Songwat กรุงเทพฯ เรากำลังวางแผนขยายช่องทางออนไลน์ให้ลูกค้าสามารถสั่งซื้อสินค้าได้ทุกตัว พร้อมจัดส่งทั่วประเทศ นอกจากนี้ยังมีการออกอีเวนต์เป็นครั้งคราวด้วยค่ะ

มีแผนส่งออกไปต่างประเทศบ้างไหม

บอส: ช่วงหนึ่งเราเคยส่งไปโซนเอเชีย เช่น ฮ่องกง มีลูกค้าติดต่อให้ส่งช็อกโกแลตไปบ้างครับ แต่ตอนนี้เรากำลังปรับโรงงานและยกระดับมาตรฐานการส่งออกให้ตรงตามข้อกำหนดของต่างประเทศ ซึ่งค่อนข้างเข้มงวด เราจึงรอให้ทุกอย่างเรียบร้อยก่อนค่อยเริ่มดำเนินการส่งออกอย่างเต็มตัวครับ

เจริญดีช็อกโกแลตวางทิศทางของแบรนด์ในอนาคตไว้ยังไง

มีแผนพัฒนาอะไรใหม่ ๆ หรืออยากผลักดันวงการช็อกโกแลตไทยให้ไปถึงจุดไหนบ้าง

บอส: เป้าหมายของเรา คืออยากให้ทุกผลิตภัณฑ์ของเจริญดีช็อกโกแลตมีการใช้ส่วนใดส่วนหนึ่งของโกโก้ ไม่ว่าจะเป็นช็อกโกแลตหรือชาเปลือกโกโก้ก็ตาม นอกจากนี้ยังมีโปรเจกต์ทำไวน์แบบไม่มีแอลกอฮอล์ (Alternative Wine) ที่บ่มคล้ายไวน์จริง ๆ ครับ

เรามองว่าในไทยยังไม่ได้บริโภคช็อกโกแลตเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน เราจึงอยากสร้างวัฒนธรรมนี้ ผ่านช็อกโกแลตบาร์ เครื่องดื่ม และอาหารต่าง ๆ โดยจัดอีเวนต์ เช่น pairing ชากับช็อกโกแลต เพื่อให้คนได้ลองดื่มควบคู่กัน

สำหรับโปรดักต์ใหม่ ๆ ตอนนี้เรากำลังเทสต์สูตรกันอยู่ครับ ซึ่งใช้เวลานานเพราะมีหลายปัจจัยที่ต้องควบคุม อย่างล่าสุดเรามีโปรเจกต์ช็อกโกแลตชา ที่ร่วมมือกับสี่ไร่ชาชื่อดังในไทย โดยใช้ชาไทยคุณภาพมาผสมกับช็อกโกแลต เพื่อสร้างรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ และสะท้อนคุณภาพของวัตถุดิบไทยครับ

หากต้องพรีเซนต์แบรนด์ให้กับคนที่ไม่รู้จัก อยากจะแนะนำแบรนด์ของเราว่ายังไง

แคนดี้: แบรนด์ของเราคือ “เจริญดี ช็อกโกแลต” ทำช็อกโกแลตจากสวนของเราเองทั้งหมด ดูแลทุกขั้นตอนตั้งแต่ปลูกต้นโกโก้จนเป็นช็อกโกแลตค่ะ ผลิตภัณฑ์ของเรามีทั้งช็อกโกแลตบาร์สำหรับทานเล่น, เครื่องดื่มช็อกโกแลต และชาเปลือกโกโก้ ทุกอย่างมาจากสวนที่ป่าละอู อ.หัวหิน และเป็น single origin จากพื้นที่นี้โดยเฉพาะค่ะ

ช่วงแรกเวลาแนะนำต้องอธิบายค่อนข้างเยอะ เพราะหลายคนไม่รู้ว่าประเทศไทยปลูกโกโก้และทำช็อกโกแลตเองได้ พอลูกค้าเริ่มเข้าใจมากขึ้น ทุกวันนี้บางคนมาหาเราที่งานอีเวนต์ต่างๆและจำได้ว่า “เจริญดี” คือช็อกโกแลตจากป่าละอู หลายคนก็เข้าใจตัวตนของความเป็นเรามากขึ้นด้วยค่ะ

มีอะไรอยากฝากถึงคนที่ติดตามเรามาตลอดบ้าง

แคนดี้: ขอบคุณลูกค้าทุกคนมากๆค่ะ ที่เปิดใจและเข้าใจความเป็นช็อกโกแลตไทยค่ะ เพราะเดิมทีภาพจำของหลายคนคือช็อกโกแลตต้องมาจากต่างประเทศ แต่ตอนนี้ทุกคนเริ่มเข้าใจ มองเห็นมูลค่า และให้ความสำคัญกับช็อกโกแลตที่ทำจากวัตถุดิบในบ้านเรามากขึ้น

ตั้งแต่วันแรก เราเลือกใช้วัตถุดิบคุณภาพจากสวนของเราเอง และใส่ความตั้งใจลงไปในทุกขั้นตอน ผลลัพธ์ที่ได้ ไม่ว่าจะเป็นการตอบรับจากลูกค้าหรือรางวัลที่ได้รับ ล้วนเป็นกำลังใจให้เราก้าวต่อไป ในวันนี้เรากำลังเตรียมขยายโรงงานให้ได้มาตรฐาน เพื่อส่งต่อช็อกโกแลตที่มีคุณภาพให้มากยิ่งขึ้นค่ะ

ฝากอะไรถึงคนที่อยากเริ่มต้นทำธุรกิจ

แคนดี้: ถ้าเราได้ทำในสิ่งที่รัก และตั้งใจจริง ไม่ว่างานนั้นจะเป็นอะไรก็ตาม แม้การเริ่มต้นอาจไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ถ้าเราเชื่อว่าเราทำได้ และทุ่มเทกับมันมากพอ ความพยายามและความตั้งใจ จะพาเราไปสู่ผลงานที่ดี และทำให้เราภูมิใจในเส้นทางของตัวเองค่ะ ขอบคุณค่ะ

ข้อมูลติดต่อ

🔵 Facebook บ้านสวนเจริญดี – Charoendee Garden
📷 IG Charoendeegarden
⚫ TikTok charoendeegarden