วันนี้เราอยู่กันที่ร้าน “ขนมหวานบ้านป้าปรางค์” ร้านขนมไทยที่หลายคนติดใจจนต้องสั่งทุกครั้งที่มาหัวหิน ความอร่อยที่เกิดจากความพิถีพิถันในทุกขั้นตอน รสอร่อยที่ส่งผ่านกันมากว่า 80 ปี จนวันนี้มาถึงมือคุณแอ๋ว “คนที่นี่” ที่ยังคงสนุกกับการตื่นมาทำขนมหวานทุกวัน ร้านนี้มีที่มายังไง ขนมหวานร้านนี้น่าสนใจตรงไหน หาคำตอบพร้อมกันผ่านบทสัมภาษณ์นี้ได้เลย
แนะนำตัวคุณแอ๋ว และร้านขนมหวานบ้านป้าปรางค์
สวัสดีค่ะ พี่แอ๋วนะคะ เป็นเจ้าของร้านขนมหวานบ้านป้าปรางค์ เปิดขายมานานกว่า 80 ปีแล้วค่ะ เริ่มขายมาตั้งแต่รุ่นคุณยาย คุณแม่ (ป้าปรางค์) แล้วก็มารุ่นพี่ เป็นรุ่นที่ 3 และรุ่นที่ 4 กำลังจะมาต่อ เป็นลูกสาวทำควบคู่ไปด้วยกันกับพี่นี่เลย
ปัจจุบันที่ร้านมีขายขนมอะไรบ้าง ราคาถุงละเท่าไร
ขนมของที่ร้านเราทำเองทั้งหมด จะไม่ซื้อของจากข้างนอกเข้ามาผสมเลย วันธรรมดาจะมีประมาณ 10 อย่างขึ้นไป ส่วนวันเสาร์ – อาทิตย์ ประมาณ 12 – 13 อย่างค่ะ ขนมที่มีขายเหมือนเดิมทุกวัน เช่น กล้วยบวชชี ขนมโค ฟักทองแกงบวด ทับทิมกรอบ สาคู ข้าวเหนียวถั่วดำ และเราจะมีขนมที่สลับวันกันทำประมาณ 2 – 3 อย่าง คือ ปลากริมไข่เต่า ขนมสามเกลอ ครองแครงกะทิสด สลับกันไปเรื่อย ๆ ค่ะ แล้วก็จะมีขนมเปียก ๆ บางวันเป็นเต้าส่วน บางวันเป็นข้าวเหนียวดำเปียกเผือก ข้าวเหนียวขาวเปียกเผือก ข้าวเหนียวเปียกลำไย ข้าวเหนียวเปียกข้าวโพด แล้วแต่ว่าเราได้วัตถุดิบอะไรมา ราคาเริ่มต้นถุงละ 25 บาท เท่ากันทุกอย่างเลยค่ะ
จุดเริ่มต้นของร้านขนมหวานบ้านป้าปรางค์ ขายมากี่ปีแล้ว เริ่มต้นขายครั้งแรกที่ไหน
ขายมาตั้งแต่รุ่นยายแล้วค่ะ เปิดมากว่า 80 ปี พี่โตมาก็อยู่กับขนมมาตลอด คุณยายกับคุณแม่ขายขนมเป็นอาชีพหลัก สมัยก่อนที่พี่จำได้ แม่ไม่ได้ทำเฉพาะขนม ตอนเช้าจะทำลอดช่องใบเตยส่งเข้าวังทุกวัน แล้วพอทำเสร็จก็จะมาทำขนม ทำเองทุกขั้นตอน แม้กระทั่งกะเทาะมะพร้าว ตอนที่ยายขายน่าจะเป็นหาบมากกว่า จนมารุ่นแม่ก็ยังเป็นหาบอยู่ พอมาถึงรุ่นพี่ก็เลยใช้ชื่อแม่ เพราะว่าแม่ก็จะมีลูกค้าอยู่แล้ว เมื่อก่อนไม่ได้ขายตรงนี้ บ้านของยายและแม่จะอยู่ในซอยเล็ก ๆ ที่จอดรถก็ไม่มี ถ้าไม่ใช่ลูกค้าประจำก็จะมาไม่ถูก ส่วนใหญ่เป็นชาวบ้าน เราก็จะมาอาศัยหน้าบ้านของชาวบ้านที่รู้จักขาย สักพักแม่ก็จะหาบไปขายที่ตลาด อยู่ตรงนั้นค่อนข้างเหนื่อยเลย เพราะต้องขนของเข้าออก
จนพอมารุ่นพี่ก็เลยตัดสินใจย้ายมาขายตรงนี้ตั้งแต่ปี 2547 เดิมทีแม่ก็กังวลว่าถ้าย้ายออกมาแล้วจะมีคนมั้ย เราขายมานาน มีลูกค้าเป็นคนพื้นที่อยู่แล้ว แต่พอย้ายมามันก็ดี ร้านอยู่หน้าถนน สะดวก ไม่ต้องเดินทางไกล มีครัวที่สามารถทำขนมในนี้ได้เลย พี่ก็ได้ลูกค้าจากตรงนี้เยอะค่ะ ลูกค้าเขาก็จะบอกต่อ ๆ กัน แต่เมื่อก่อนแถวนี้เงียบมาก ร้านน้อยมาก เปิดแรก ๆ ก็ยังไม่มีคน ไม่ได้คึกคักขนาดนี้
จุดเด่นของร้านขนมหวานบ้านป้าปรางค์ที่ทำให้ลูกค้าติดใจ
เราพยายามจะคุมคุณภาพของขนมตลอดอยู่แล้วค่ะ คัดเลือกแต่วัตถุดิบเกรดดี ขนมที่ร้านเราทำใหม่ทุกวัน ตื่นมาทำประมาณตีห้าครึ่ง หกโมงเช้า ต้องขายให้หมดภายในวันนั้นเลยค่ะ เราจะไม่เก็บเอาไว้แล้วนำมาอุ่นขายต่อให้ลูกค้า ถ้าคนไม่เคยทานพี่ก็จะแนะนำเขาว่าลองทุกอย่างมั้ยคะ อย่างละ 1 ถุง พอลูกค้าสั่งไปแล้วลองทาน ชอบอันไหน ครั้งต่อไปเขาก็จะสั่งอย่างที่ชอบ หรือถ้าเป็นลูกค้าประจำก็จะเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ค่ะ
การขายขนมไทยมีอะไรที่ต้องใส่ใจเป็นพิเศษมั้ย
ต้องดูทุกขั้นตอน ตั้งแต่คัดเลือกวัตถุดิบ อย่างกะทิ ถ้าเป็นสมัยแม่จะทำกะทิเอง ลงมือทำเองหมด แต่เนื่องจากตอนนี้แรงงานเราไม่เพียงพอ สั่งของมาแต่เราก็ต้องคอยดูคุณภาพเองทุกวัน อย่างกล้วยเราปลูกมาใช้เองเลยค่ะ พอสุกได้ที่เราก็เอามาทำขนมต่อ พี่ก็จะเป็นคนเลือกเองว่าความสุกประมาณนี้เอาไปทำกล้วยบวชชี หรือความนิ่มประมาณนี้เอาไปทำกล้วยเชื่อม ขนมบางอย่างจะมีขั้นตอนการทำเยอะมาก เช่น ขนมโค เราต้องมานั่งขูดมะพร้าว นั่งกวน นั่งปั้น ไม่มีเครื่องทุ่นแรง เราเคยลองใช้แล้วแต่มันไม่ได้ก็ต้องล้มเลิกไป ไส้ขนมจะใช้เวลานาน แต่จะให้เราปล่อยผ่านไปเลยก็ไม่ได้
หลายสิบปีที่เปิดมา ร้านขนมหวานบ้านป้าปรางค์มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมบ้าง
ขนมที่ขายจะเหมือนกันตั้งแต่รุ่นยาย เป็นสูตรจากคุณยายและคุณแม่ แล้วพี่ก็เอามาปรับความหวานลง รสชาติของขนมจะไม่หวานมากแล้วค่ะ แต่ความมันของกะทิยังคงเดิม พี่พยายามทำให้มันหลากหลาย ตอนนี้เยอะกว่าตอนที่แม่ทำขาย มีทั้งขนมเชื่อม ขนมน้ำกะทิ ขนมใส่น้ำแข็ง เราพยายามหาเข้ามา ทำขนมตามฤดูกาล ถ้าหน้าทุเรียนก็จะต้องมีข้าวเหนียวทุเรียน ถ้ามีลำไยก็จะทำข้าวเหนียวเปียกลำไย ใช้วัตถุดิบที่เราคัดมาอย่างดีทั้งหมดค่ะ
ช่วงโควิดครั้งแรกพี่ก็ขายดีมาก ๆ เพราะคนมา work from home เยอะ แต่พี่ก็ปิดไม่ให้นั่งในร้านตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา พี่ว่ามันก็ดี ไม่อย่างนั้นปัญหาเรื่องแรงงานมันเป็นปัญหาใหญ่ ลูกค้าส่วนมากมาแล้วก็จะซื้อกลับ พอเราอธิบายให้ฟังเขาก็เข้าใจ พี่จะมีภาชนะให้พร้อมทานบนรถ หรือบางทีมีลูกค้าเป็นผู้ใหญ่มา อยากนั่งทาน เราก็จะเอาเก้าอี้ให้เขานั่ง
พี่ไม่ได้เข้ากับ delivery เจ้าไหนเลย เพราะเวลาเปิดร้าน ลูกค้ามารอแล้ว เราไม่มีเวลามาดูตรงนั้น ถ้าลูกค้าอยากจะทานขนม โทรมาสั่งทางร้านแล้วเรียก Grab มารับได้ หรือถ้าลูกค้าสนใจขนม เราทำส่งให้อยู่แล้ว แต่ทุกอย่างลูกค้าต้องมารับเอง ร้านเปิดทุกวันเวลา 11:30 น. เวลาปิดร้านแล้วแต่ขนมหมดเลยค่ะ ถ้าวันหยุดจะหมดไวหน่อย ปกติแล้วถ้าพี่ไม่มีธุระก็คือไม่ได้ปิดร้านเลย เดือนหนึ่งอาจจะหยุดสัก 2 – 3 วัน
ถ้าเป็นคนที่ไม่ค่อยได้ทานขนมไทย หรือกินไม่ค่อยเป็นก็อยากให้ลองกล้วยบวชชี ขนมโค สาคูเปียก ถ้าเป็นของน้ำแข็งช่วงนี้ก็จะมีทับทิมกรอบ ถ้าช่วงหน้าร้อนจะมีลูกตาลลอยแก้ว ลูกค้าบางคนก็จะชอบขนมโค ชอบข้าวฟ่าง บางทีลูกค้าฝรั่งจะมีรูปมาให้ดูเลย มีทับทิมกรอบ ขนมโค เขาก็จะลองทานกัน แต่ละวันพี่จะทำขนมโคและข้าวฟ่างเยอะนิดหนึ่ง นอกนั้นก็ปริมาณพอ ๆ กัน แต่ถ้าเป็นช่วงเทศกาลก็จะทำออกมาเยอะกว่าปกติ ส่วนใหญ่ขนมโคจะหมดไว แต่อย่างอื่นก็อร่อยค่ะ
วางแผนกับร้านนี้ไว้ยังไงต่อ จะขยายเพิ่ม หรือจะส่งต่อให้รุ่นถัดไปไหม
ถ้าพี่ยังทำได้ก็ยังทำไปเรื่อย ๆ ช่วยกันกับลูกอีก 2 คนค่ะ เรื่องขยายร้านก็มีความคิด แต่เรายังติดเรื่องแรงงาน ถ้าขยายไปแต่กำลังเราไม่พอ คุณภาพและมาตรฐานมันจะไม่ได้เลย พี่ว่าหัวหินมันก็น่าอยู่ ช่วยกันสานต่อไปเรื่อย ๆ เอาความสบายใจของเราดีกว่า ตอนนี้ก็เพียงพอแล้ว หน้าร้านเรา 3 คนก็จะช่วยกันขาย ลูกสาวอีกคนจะช่วยทำ พี่ก็ทำด้วย คอยดู คอยมองลูก เขาก็ทำดีนะ รสชาติได้มาตรฐานเลยค่ะ
สรุปส่งท้าย ฝากข้อความถึงลูกค้าใหม่ที่ไม่เคยมา และลูกค้าเก่าที่มาประจำ
สำหรับลูกค้าใหม่อยากให้เปิดใจลองแวะเข้ามาทานดู ร้านเราก็อยู่คู่หัวหินมานานแล้ว เราใช้แต่ของเกรดดี ๆ เป็นสูตรขนมหวานที่สืบทอดกันมา รักษาคุณภาพตลอด 80 ปี อยากให้ลองมาชิมกันค่ะ
ส่วนลูกค้าเก่าก็คิดถึงทุกคนนะคะ เรามีลูกค้าประจำเราถึงอยู่ได้ บางทีหายไป พอกลับมาเราก็ดีใจ ถ้าเขามาหยุดตรงนี้ ลงจากรถ เดินมาพี่จะรู้เลยว่าคนนี้ชอบทานอะไร จะสั่งอะไร ลูกสาวเขาก็จำได้ บางคนไม่ใช่คนพื้นที่พี่ก็จำได้นะ เพราะส่วนใหญ่ลูกค้าที่มาซื้อก็จะย้อนกลับมาหาพี่อยู่ตลอด เป็นลูกค้าประจำกัน
ข้อมูลติดต่อ
🍨 ขนมหวานบ้านป้าปรางค์
📌 ซอยหัวหิน 55 เข้าซอยมาไม่ไกลร้านอยู่ขวามือ
📞 032 512 611
⏰ เปิดทุกวัน 11:30 จนถึงประมาณ 15:00 น. (หรือของหมด)
🗺 แผนที่ Google Maps
