การเลือกซื้อกองทุนรวม ลดหย่อนภาษีเป็นวิธีการจัดการภาษี และการออมเงินที่หลาย ๆ คนเลือกใช้เพราะให้ความคุ้มค่าหลายด้าน อีกทั้งยังเลือกซื้อได้ง่าย เพราะปัจจุบันนี้สามารถซื้อผ่านทางแอปพลิเคชันธนาคาร และการลงทุนได้แล้ว วันนี้เราจะพาคุณมารู้จักกับกองทุนรวมที่ลดหย่อนภาษีได้กัน
กองทุนรวมลดหย่อนภาษี มีอยู่ 2 ประเภท ได้แก่
- กองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) : กองทุนรวมที่เน้นการออมระยะยาว และเป็นตัวช่วยในการลดหย่อนภาษีที่มาแทนกองทุนรวมหุ้นระยะยาวหรือ LTF ที่หมดอายุไปเมื่อปี 2562
- ซื้อกองทุนรวม SSF เพื่อใช้ลดหย่อนภาษีสูงสุดไม่เกิน 30% ของรายได้พึงประเมินที่ต้องเสียภาษีแต่ไม่เกิน 200,000 บาท (และเมื่อรวมกับการออมเพื่อเกษียณอื่นๆ ต้องไม่เกิน 500,000 บาท)
- ถือหน่วยลงทุนไม่ต่ำกว่า 10 ปี นับจากวันที่ซื้อ
- ไม่มีขั้นต่ำในการซื้อและไม่ต้องซื้อต่อเนื่องทุกปี
- ลงทุนในสินทรัพย์อะไรก็ได้ ทั้งหุ้นไทย หุ้นต่างประเทศ ตราสารหนี้ กองทุนทองคำ กองทุนอสังหาริมทรัพย์ ฯลฯ
- กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) : กองทุนรวมที่เน้นการออมเพื่อวัยเกษียณ
- ซื้อกองทุนรวม RMF เพื่อใช้ลดหย่อนภาษีสูงสุดไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมินที่ต้องเสียภาษี แต่ไม่เกิน 500,000 บาท (และเมื่อรวมกับการออมเพื่อเกษียณอื่นๆ ต้องไม่เกิน 500,000 บาท)
- ถือหน่วยลงทุนไม่น้อยกว่า 5 ปี นับตั้งแต่วันที่ซื้อครั้งแรก และขายได้ตอนอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์
- ลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลาย แต่ต้องเน้นการลงทุนในตราสารหนี้หรือเงินฝากเป็นหลัก
สำหรับผู้ที่ต้องการซื้อกองทุนรวม ลดหย่อนภาษี ควรศึกษาเงื่อนไขและรายละเอียดต่างๆ ของแต่ละกองทุนอย่างรอบคอบ เพื่อให้สามารถเลือกกองทุนที่เหมาะสมกับความต้องการและเป้าหมายการลงทุนของตนเองได้
แนวทางการเลือกซื้อกองทุนรวม ลดหย่อนภาษี
- พิจารณาเป้าหมายการลงทุน
ควรพิจารณาเป้าหมายการลงทุนของตนเองก่อนว่าต้องการออมเงินเพื่ออะไร เช่น เพื่อเป้าหมายระยะสั้น ระยะกลาง หรือระยะยาว เพื่อใช้ยามเกษียณ หรือเพื่อสร้างรายได้เสริม เป็นต้น เมื่อทราบเป้าหมายการลงทุนแล้ว ก็จะสามารถเลือกกองทุนรวมที่เหมาะสมกับเป้าหมายได้
- พิจารณาความเสี่ยง
ควรพิจารณาระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ของตนเองก่อนเลือกกองทุนรวม โดยผู้ที่รับความเสี่ยงได้สูงอาจเลือกกองทุนรวมที่มีความเสี่ยงสูง เพื่อโอกาสในการได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้น ส่วนผู้ที่รับความเสี่ยงได้ต่ำอาจเลือกกองทุนรวมที่มีความเสี่ยงต่ำ เพื่อลดความเสี่ยงในการขาดทุน
- พิจารณาผลการดำเนินงานที่ผ่านมา
ควรศึกษาผลการดำเนินงานที่ผ่านมาของกองทุนรวมแต่ละกองทุน เพื่อให้ทราบว่ากองทุนรวมนั้นๆ มีผลการดำเนินงานเป็นอย่างไรในช่วงที่ผ่านมา โดยพิจารณาจากข้อมูลต่างๆ เช่น ผลตอบแทนย้อนหลัง มูลค่าหน่วยลงทุน อัตราส่วนผลตอบแทนต่อความเสี่ยง เป็นต้น
- ศึกษาข้อมูลกองทุนรวมอย่างรอบคอบ
ควรศึกษาข้อมูลกองทุนรวมอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อ โดยพิจารณาจากข้อมูลต่างๆ เช่น นโยบายการลงทุน ผลการดำเนินงานที่ผ่านมา ความเสี่ยง ค่าใช้จ่ายต่างๆ เป็นต้น
- กระจายการลงทุน
ไม่ควรลงทุนในกองทุนรวมเพียงกองทุนเดียว ควรกระจายการซื้อกองทุนรวม ลดหย่อนภาษีหลายๆ กองทุน เพื่อให้ลดความเสี่ยงจากการขาดทุน